เมณฑกปัญหา วรรคที่สอง
๒. ฐปนียาพยากรณปัญหา ๑๒
พระราชาตรัสถามว่า "พระผู้เป็นเจ้า พระพุทธพจน์นี้ อัน'พระผู้มีพระภาคแม้1ได้ ทรงภาสิตแล้วว่า 'ดูก่อนอานนท์กำมือของอาจารย่ในธรรมทั้งหลาย ไม่มีแด่พระ ตถาคต,ดังนี้. ก็แต่พระผู้มีพระภาคเจ้าอันพระเถระผู้บุตรแห่งนางพราหมณีชื่อ มาลุงก ยะ มาทูลถามปัญหาอีกไม่ทรงพยากรณ์แล้ว. ปัญหานี้มืล่1วนสอง จักเป็นปัญหาอาศัย ส่วนหนึ่งแล้ว โดยความไม1รู้บ้าง โดยความกระทำความซ่อนบ้าง. ถ้าว่าพระผู้มีพระ ภาคเจ้าตรัสแล้วว่า 'ดูก่อนอานนท์กำมือของอาจารยํในธรรมทั้งหลาย ไม่มีแด่พระ ตถาคต, ดังนี้. ถ้าอย่างนั้น พระองค์เมื่อไม่รู้ จึงไม่พยากรณ์แก่พระเถระผู้บุตรแห่งนาง พราหมณีชื่อ มาลุงกยะ. ถ้าว่าพระองค์รู้อยู่ ไม่พยากรณ์, ถ้าอย่างนั้น กำมือของ อาจารย่ในธรรมทั้งหลาย ย่อมมีแด่พระตถาคต. ปัญหาแม้นี้สองเงื่อน มาถึงพระผู้เป็น เจ้าแล้ว, ปัญหานั้นพระผู้เป็นเจ้าพึงขยายให้แจ่มแจ้งเถิด."
พระเถรเจ้าทูลว่า "ขอถวายพระพร พระผู้มีพระภาคเจ้า แม้ได้ทรงภาสิตพระ พุทธพจน์นี้ว่า 'ดูก่อนอานนท์กำมือของอาจารย่ในธรรมทั้งหลาย ย่อมไม่มีแด่พระ ตถาคต, ดังนี้. ส่วนพระเถระมาลุงกยบุตรมาทูลถามปริศนาแล้ว พระองค์!ม่ทรง พยากรณ์แล้ว, ก็แหละความไม1ทรงพยากรณ์นั้น พระองค์จะได้ทรงกระทำด้วยความไม่ รู้ ก็'หา,ไม่ จะได้ทรงกระทำโดยความกระทำความซ่อน ก็หาไม1. ความพยากรณ์ปัญหา ทั้งหลายเหล่านี้ มืสี่ประการ, ความพยากรณ์ปัญหาสี่ประการเป็นไฉน ? ปัญหาที่ จำต้องพยากรณ์โดยส่วนเดียวหนึ่ง, ปัญหาที่ต้องแจกพยากรณ์หนึ่ง, ปัญหาที่ต้องย้อน ถามแล้วจึงพยากรณ์หนึ่ง, ปัญหาที่จำต้องยกไว้หนึ่ง, ปัญหาที่ต้องย้อนถามแล้วจึง พยากรณ์หนึ่ง, ปัญหาที่จำต้องยกไว้หนึ่ง, ก็ปัญหาที่จำต้องพยากรณ์โดยส่วนเดียวเป็น ไฉน? ปัญหาที่จำต้องพยากรณ์โดยส่วนเดียวว่า "ทู่] อนิจจํ,, รูปไม่เที่ยง "เวทนา อนิจจา" เวทนาไม่เที่ยง "สญญา อนิจจา" ความจำหมายไม่เที่ยง "สังขารา อนิจจา"
สังขารทั้งหลายไม่เที่ยง "วิญญาณ์อนิจจํ" วิญญาณไม่เที่ยง; นี้ปัญหาที่จำต้อง พยากรณ์โดยส่วนเดียว.
ปัญหาที่ต้องแจกพยากรณ์เป็นไฉน? ปัญหาว่า "รูปเป็นของไม่เที่ยงหรือเล่า," "เวทนา, สัญญา, สังขาร, วิญญาณ, เป็นของไม่เที่ยงหรือเล่า ดังนี้" ละอย่าง ๆ เป็น ปัญหาต้องแจกพยากรณ์ละอย่าง ๆ; นี้ เป็นปัญหาต้องแจกพยากรณ์
ปัญหาต้องย้อนถามแล้วจึงพยากรณ์เป็นไฉน? ปัญหาว่า "บุคคลย่อมรู้แจ้งสิ่ง ทั้งปวงด้วยจักษุหรือหนอแล" ดังนี้, เป็นปัญหาต้องย้อนถามแล้วจึงพยากรณ์.
ปัญหาที่ควรงดไว้เป็นไฉน? ปัญหาว่า "โลกเที่ยงหรือ" ดังนี้ เป็นปัญหาควรงด ไว้, ปัญหาว่า "โลกไม่เที่ยงหรือ," "โลกมีที่สุด," "โลกไม่มีที่สุด," "โลกมีที่สุดด้วย'ไม่มีที่สุด ด้วย," "โลกมีที่สุดก็ไม่ใช่ไม่มีที่สุดก็ไม่ใช่," "ชีวิตก็อันนั้น สรระก็อันนั้น," "ชีวิตต่างหาก สรระต่างหาก,, "สัตว์มีในเบื้องหน้าแต่ความตาย," "สัตว์!ม่มีในเบื้องหน้าแต่ความตาย," "สัตว์มีด้วย ไม่มีด้วย ในเบื้องหน้าแต่ความตาย," "สัตว์มีก็ไม่ใช่ ไม่มีก็ไม่ใช่ในเบื้องหน้า แต่ความตาย," เป็นปัญหาควรงดคือไม่ควรแก้ละอย่าง ๆ;นี้เป็นปัญหาควรงดไว้. พระผู้ มีพระภาคไม่ทรงพยากรณ์ปัญหาควรงดนั้น แก่พระเถระมาลุงกยุบตร. และปัญหานั้น ควรงดเพราะเหตุอะไร? เหตุหรือการณ์เพื่อจะแสดงปัญหานั้นไม่มี, เพราะเหตุนั้น ปัญหานี้จึงควรงดไว้, ควรเปล่งวาจาไม่มีการณ์ไม่มีเหตุย่อมไม่มีแต่พระผู้มีพระภาคเจ้า ผู้ตรัสรู้แล้วทั้งหลาย ขอถวายพระพร."
ร. "ดีละ พระผู้เป็นเจ้านาคเสน ข้อวิสัชนาปัญหานี้ สมอย่างนั้น, ข้าพเจ้ายอม รับรองอย่างนั้น."