เมณฑกปัญหา วรรคที่สอง

ก่อนหน้า

๑. ขุททานุขุททกปัญหา ๑๑

พระเจ้ามิลินท์ตรัสว่า "พระผู้เป็นเจ้านาคเสน พระพุทธพจน์นี้ พระผู้มีพระภาค แม้ตรัสแล้วว่า 'ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย เราตถาคตแสดงธรรมเพื่อความตรัสรู้ยิ่ง มิได้แสดง ธรรมเพื่อความไม1ตรัสรู้ยิ่ง ดังนี้. ส่วนว่าในวินัยบัญญ้ติ พระองค์ตรัสแล้วอย่างนี้อีกว่า 'ดูก่อนอานนท์พระสงฆ์เมื่อจำนง จงเลิกถอนสิกขาบททั้งหลายน้อยและน้อยโดยลำดับ โดยกาลที่เราตถาคตล่วงไปแล้ว' ดังนี้. พระผู้เป็นเจ้านาคเสน สิกขาบททั้งหลายน้อย และน้อยโดยลำดับ โดยกาลที่พระองค์ล่วงไปแล้ว. พระผู้เป็นเจ้านาคเสน ถ้าว่า พระผู้มี พระภาคเจ้าตรัสแล้วว่า 'ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย เราตถาคตแสดงธรรมเพื่อความตรัสรู้ยิ่ง มิได้แสดงธรรมเพื่อความไม่ตรัสรู้ยิ่ง' ดังนี้, ถ้าอย่างนั้น คำที่ว่า 'ดูก่อนอานนท์เดยกาล ที่เราผู้ตถาคตล่วงไปแล้ว พระสงฆ์เมื่อจำนงจะเลิกถอนสิกขาบททั้งหลายน้อยและน้อย โดยลำดับเสียก็เลิกถอนเถิด' ดังนี้ นั้นผิด. ถ้าพระตถาคตตรัสแล้วในวินัยบัญญ้ติอย่าง นี้ว่า 'ดูก่อนอานนท์โดยกาลที่เราผู้ตถาคตล่วงไปแล้ว พระสงฆ์เมื่อจำนง จะเลิกถอน สิกขาบททั้งหลายน้อยและน้อยโดยลำดับเสีย ก็จงเลิกถอนเถิด' ดังนี้, ถ้าอย่างนั้นคำ ที่ว่า 'ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย เราตถาคตแสดงธรรมเพื่อความตรัสรู้ยิ่ง มิได้แสดงธรรมเพื่อ ความไม่ตรัสรู้ยิ่งแล้ว' ดังนี้ แม้นั้นเป็นผิด. ปัญหาแม้นี้สองเงื่อน ละเอียดสุขุม ละเอียด ด้วยดีแล้ว ลึก ๆ ด้วยดีแล้ว อันบัณฑิตพึงให้เห็นโดยยาก มาถึงพระผู้เป็นเจ้าแล้ว, พระ ผู้เป็นเจ้าจงแสดงความแผ่ไพศาลแห่งกำลังญาณของพระผู้เป็นเจ้า ในปัญหานั้นเถิด."

ถ. "ขอถวายพระพร พระพุทธพจน์นี้ อันพระผู้มีพระภาคแม้ภาสิตแล้วว่า 'ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย เราตถาคตแสดงธรรมเพื่อความตรัสรู้ยิ่ง มิได้แสดงธรรมเพื่อความ ไม่ตรัสรู้ยิ่ง, ดังนี้. แม่ในวินัยษัญญ่ติ พระองค์ตรัสแล้วอย่างนี้ว่า 'ดูก่อนอานนท์โดย กาลที่เราผู้ตถาคตล่วงไปแล้ว พระสงฆ์เมื่อจำนง จะเลิกถอนสิกขาบททั้งหลายน้อย และน้อยโดยลำดับเสีย ก็จงเลิกถอนเถิด, ดังนี้. ก็แต่พระตถาคตเจ้าทรงลองใจภิกษุ ทั้งหลายว่า 'สาวกทั้งหลายของเราผู้ตถาคต เราผู้ตถาคตให้สละละวางสิกขาบท โดย กาลที่เราผู้ตถาคตล่วงไปแล้ว จักละวางสิกขาบททั้งหลาย น้อยและน้อยโดยลำดับหรือ ว่าจักถือเอาสิกขาบททั้งหลาย น้อยและน้อยโดยลำดับ, จึงตรัสพุทธพจน์นั้น. อุปมา เหมือนพระเจ้าจักรพรรดิ มืพระราชโองการตรัสกะพระราชโอรสทั้งหลายอย่างนี้ว่า 'พ่อ ทั้งหลาย มหาชนบทนี้แลมืสาครเป็นที่สุดรอบในทิศทั้งปวง, พ่อทั้งหลาย เจ้าทั้งหลาย ยากที่จะกระทำเพื่อจะทรงไว้ด้วยกำลังมืประมาณเท่านั้น, เจ้าทั้งหลายมาเถิด โดยกาล ที่เราล่วงไปแล้ว เจ้าทั้งหลายละตำบลทั้งหลายที่ตั้งอยู่ในที่สุดแห่งแดนๆ เสียเถิด, ดังนี้ ; พระราชกุมารทั้งหลายเหล่านั้น โดยกาลที่พระชนกล่วงไปแล้ว จะพึงละวางตำบล ทั้งหลายที่ตั้งอยู่ในที่สุดแห่งแดน ๆ เหล่านั้นทั้งปวง ในชนบทที่ถึงพระหัตถ์แล้วบ้างหรือ แล ขอถวายพระพร."

ร. "หาไม่ พระผู้เป็นเจ้า ธรรมดาพระมหากษัตริย์ทั้งหลายมืความปรารถนายิ่ง นัก, พระราชกุมารทั้งหลายพึงรวบรวมชนบทสองเท่าสามเท่ายิ่งขึ้นไปกว่าชนบทที่ถึง พระหัตถ์แล้วนั้น ด้วยความโลภในราชสมบัติ, พระราชกุมารทั้งหลายเหล่านั้นจะพึงละ วางชนบทที่ถึงพระหัตถ์แล้วอะไรเล่า."

ถ. "ขอถวายพระพร พระตถาคตเจ้าเมื่อลองใจภิกษุทั้งหลาย ตรัสแล้วอย่างนี้ ว่า 'ดูก่อนอานนท์โดยกาลที่เราผู้ตถาคตล่วงไปแล้ว พระสงฆ์เมื่อจำนงจะเลิกถอน สิกขาบททั้งหลายน้อยและน้อยโดยลำดับเสีย ก็เลิกถอนเถิด, ดังนี้. พระพุทธโอรส ทั้งหลาย พึงคุ้มครองรักษาสิกขาบทสองร้อยห้าสิบที่ยิ่งแม้อื่นด้วยความโลภในธรรม เพื่อความพ้นจากทุกข์, พระพุทธโอรสทั้งหลาย พึงละวางสิกขาบทที่พระตถาคตทรง ษัญญ่ติไว้แล้วโดยปกติอะไรเล่า ฉันนั้นนั้นเทียวแล."

ร. "พระผู้เป็นเจ้านาคเสน พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสพระพุทธพจใใใดว่า 'สิกขาบททั้งหลายน้อยและน้อยโดยลำดับ, ดังนี้, ชนนี้หลงแล้ว เถิดความสงลัยแล่น ไปสู่ความสงลัยโดยยิ่ง ในพระพุทธพจน์นี้ว่า 'สิกขาบทเหล่านั้น สิกขาบทเหล่าไหน ชื่อ ว่าสิกขาบทน้อย สิขาบทเหล่าไหน ชื่อว่าสิกขาบทน้อยโดยลำดับ."

ถ. "ขอถวายพระพร สิกขาบททุกกฏ ชื่อว่าสิกขาบทน้อย สิกขาบททุพภาสิต ชื่อ ว่าสิกขาบทน้อยตามลำดับ, สองสิกขาบทเหล่านี้ ชื่อว่าสิกขาบททั้งหลายน้อยและน้อย โดยลำดับ. แม้พระเถระผู้ใหญ่ทั้งหลายมีแล้วในก่อน ให้เถิดความสงลัยในปัญหาข้อนี้, ปัญหานั้นอันพระผู้มีพระภาคมิได้ทรงกระท่าในที่อันเดียวกัน แม้โดยพระเถระทั้งหลายเหล่านั้น ปัญหานี้พระผู้มีพระภาคแสดงแล้ว เพราะปริยายเพื่อความตั้งมั่นแห่งพระ ธรรม."

ร. "พระผู้เป็นเจ้า ข้อลี้ลับของพระพุทธเจ้าผู้ชนะแล้ว พระผู้เป็นเจ้าเก็บไว้นาน แล้ว พระผู้เป็นเจ้ามาเปิดแล้ว กระทำให้ปรากฏแล้วในโลก ในกาลนี้ ในวันนี้."

อ่านต่อ