บทแผ่เมตตา
- เป็นการตั้งจิตของเราให้เผื่อแผ่บุญกุศล
- ลดละความตระหนี่ สร้างเมตตาในจิตใจ
- การแผ่เมตตา ควรแผ่ให้สรรพสัตว์ทั้งหลาย และตนเองด้วย
- อักขระ อักษร เป็นสิ่งนำ ควรน้อมจิตตามอักขระวาจาที่กล่าว จักได้กุศลมากขึ้น
บทแผ่เมตตา
สัพเพ สัตตา :
สัตว์ทั้งหลาย ที่เป็นเพื่อนทุกข์ เกิด แก่ เจ็บ ตาย ด้วยกันทั้งหมดทั้งสิ้น
อะเวรา โหนตุ :
จงเป็นสุขเป็นสุขเถิด อย่าได้มีเวรซึ่งกันและกันเลย
อัพยาปัชฌา โหนตุ :
จงเป็นสุขเป็นสุขเถิด อย่าได้พยาบาทเบียดเบียนซึ่งกันและกันเลย
อะนีฆา โหนตุ :
จงเป็นสุขเป็นสุขเถิด อย่าได้มีความทุกข์กาย ทุกข์ใจเลย
สุขี อัตตานัง ปะริหะรันตุ :
จงมีความสุขกายสุขใจ รักษาตนให้พ้นจากทุกข์ภัยทั้งสิ้นเถิด
บทแผ่เมตตาให้ตนเอง
อะหัง สุขิโต โหมิ :
ขอให้ข้าพเจ้า มีแต่ความสุข
อะหัง นิททุกโข โหมิ :
ขอให้ข้าพเจ้า ปราศจากความทุกข์กายทุกข์ใจ
อะหัง อะเวโร โหมิ :
ขอให้ข้าพเจ้า ปราศจากเวรและกรรม
อะหัง อัพยาปัชโฌ โหมิ :
ขอให้ข้าพเจ้า ปราศจากอุปสรรค อันตรายทั้งปวง
สุขี อัตตานัง ปะริหะรามิ :
ขอให้ข้าพเจ้า มีสติสัมปะชัญญะอยู่ทุกเมื่อ รักษากาย วาจา ใจ ให้พ้นจากทุกข์ภัย ทั้งสิ้นเถิด
อานิสงส์ของการแผ่เมตตา
สมเด็จพระผู้มีพระภาคเจ้า ตรัสไว้ใน เมตตาสังสสูตร ว่า ผู้ที่เจริญเมตตาอยู่เป็นนิจจะได้รับอานิสงส์ ๑๑ ประการ
๑. จะหลับอยู่ก็เป็นสุข
๒. จะตื่นอยู่ก็เป็นสุข
๓. จะไม่ฝันร้ายและลามก
๔. เป็นที่รักใคร่ของหมู่ามนุษย์
๕. เป็นที่รักใคร่ของอมนุษย์ ตลอดจนสัตว์เดรัจฉานทั้งหลาย
๖. เทวดาย่อมคุ้มครองรักษา
๗. ย่อมล่วงพ้นจากไฟ ยาพิษ ศาสตราวุธและภยันตรายทั้งปวง
๘. ทำให้จิตตั้งมั่นเจริญสมาธิได้รวดเร็ว
๙. หน้าตาอิ่มเอิบจิตใจเบิกบาน ผิวพรรณผ่องใส
๑๐. ทำให้มีสติมั่นคงไม่หลงในเวลาจะสิ้นใจ
๑๑. เมื่อสิ้นชีวิตแล้วแม้จะเกิดอีกก็เกิดในที่ดี มีสวรรค์ หรือพรหมโลก เป็นต้น
บทกรวดน้ำ (ย่อ)
อิทัง โน ญาตีนัง โหตุ , สุขิตา โหนตุ ญาตะโย
ขอบุญส่วนนี้ จงสำเร็จแก่ญาติทั้งหลายของข้าพเจ้า ขอให้ญาติทั้งหลายของ จงมีความสุขเถิด
บทกรวดน้ำ คำกลอน
ขอเดชะ ตั้งจิต อุทิศผล
บุญกุศล นี้แผ่ไป ให้ไพศาล
ถึงบิดา มารดา ครูอาจารย์
ทั้งลูกหลาน ญาติมิตร สนิทกัน
ผู้เคยร่วม กิจการ งานทั้งหลาย
ขอจงได้ ในกุศล ผลของฉัน
ทั้งเจ้ากรรม นายเวร และเทวัญ
ขอให้ท่าน ได้กุศล ผลนี้เทอญ ฯ