ปลงสังขาร

หลังจากการสวดมนต์ หรือนั่งสมาธิแล้ว ควรระลึกปลงสังขารบทใดบทหนึ่งทุกครั้ง เพื่อความไม่ประมาท เมามัว ละความเป็นตัวตนลงทีละเล็กละน้อย จนจิตเบาและเกิดเป็นกุศล เมื่อค่อยๆ ละตัวตนจนเบาลง ศีลทานจะค่อยๆ เพิ่มพูนโดยธรรมเอง

บทปลงสังขาร ๓

๐ เกศาผมหงอก

ฟันฟางผมเผ้า

ตามืดหูหนัก

บ่มิเป็นแก่นสาร

 

 

เครื่องประดับกายเรา

แข้งขามือสั่น

เห็นน่าเกลียดกลัว

 

 

ให้เจ็บให้เหนื่อย

แก่แล้วโรคา

ได้ความทุกข์ทน

 

 

เหมือนดอกไม้โรย

แก่แล้วโรคา

ได้ความทุกข์ร้อน

 

 

กลับกลายหายจาก

ลูกรักผัวรัก

เขาว่าซากผี

 

๐ เขาเสียไม่ได้

เขาบ่ได้ต้อง

 

 

มือเท้าเขามัด

เขาหามเอาไป

เขากลับคืนมา

 

 

อยู่กับหมูหมา

ทรัพย์สินของตน

ข้าวของทั้งนั้น

 

 

เรียกว่าของกู

แต่เงินใส่ปาก

ไปแต่ตัวเปล่า

 

 

ได้ยินเสียงนก

ได้ยินหมาใน

ใจจิตอ้างว้าง

 

 

บินมาร้องแรก

เหลียวไม่เห็นใคร

ให้อยู่ครื้นเครง

 

 

เขาไม่ใยดี

ยิ่งคิดยิ่งพลัน

รำพึงถึงตัว

 

 

ยิ่งแลยิ่งลับ

เห็นแต่ศีลทาน

ตามเลี้ยงรักษา

 

 

ได้เป็นเพื่อนม้วย

ตบแต่งสมบัติ

เลิศล้ำอำไพ

 

 

ได้วิมานเลิศ

นางฟ้าแห่ล้อม

ขับกล่อมดีดสี

 

 

แก้วเก้าเนาวรัตน์

คุณพระทศพล

พระธรรมนั้นหรือ

 

 

มาเป็นปิ่นปัก

เอออวยสมบัติ

ดีกว่าลูกหลาน

 

 

บ่มิเป็นตำหนัก

เขามิตามช่วย

ไปหลงรักเขา

 

 

จำศีลภาวนา

จะได้ช่วยตน

ลุถึงสถาน

 

 

หลงรักลูกหลาน

เป็นห่วงตัณหา

ตายไปจะต้อง

บอกว่าตัวเฒ่า

แก่แล้วทุกประการ

ร้ายนักสาธารณ์

ใช่ตัวตนของเรา ฯ

 

๐ แผ่พื้นเปื่อยเน่า

โสโครกทั้งตัว

เส้นสายพันพัว

อยู่ในตัวตน

 

๐ ให้มึนให้เมื่อย

ไปทั่วเส้นขน

เข้ามาหาตน

โศกาอาวรณ์

 

๐ จะนั่งก็โอย จะลุกก็โอย

ไม่มีเกสร

เข้ามาวิงวอน

ทั่วกายอินทรีย์

 

๐ ครั้นสิ้นลมปาก

เรียกกันว่าผี

เขาชักหน้าหนี

เปื่อยเน่าพุพอง

 

เขาไปเยี่ยมมอง

เกลียดกลัวนักหนา

 

๐ เขาผูกคอรัด

รัดรึงตรึงตรา

ทิ้งไว้ป่าช้า

สู่เหย้าเรือนพลัน

 

๐ ตนอยู่เอกา

ยื้อคร่าพัลวัน

ขนมาปันกัน

ไม่ใช่ของเรา

 

๐ เมื่อตนยังอยู่

เดี๋ยวนี้เป็นของเขา

เขายังควักล้วงเอา

เน่าทั่วสรรพางค์

 

๐ อยู่ในป่ารก

กึกก้องดงยาง

ร้องไห้ครวญคราง

วิเวกวังเวง

 

๐ มีหมู่นกแขวก

แถกขวัญหวาดเกรง

อกใจวังเวง

รำพึงถึงตัว

 

๐ ตายไปเป็นผี

ทิ้งไว้น่ากลัว

กายสั่นระรัว

อยู่ในป่าช้า

 

๐ ผัวมิ่งสินทรัพย์

ไม่เห็นตามมา

เมตตาภาวนา

อุ่นเนื้ออุ่นใจ

 

๐ ศีลทานมาช่วย

เมื่อตนตายไป

นพรัตน์โพยภัย

อัตตะกิเลสมากมี

 

๐ ศีลพาไปเกิด

ประเสริฐโฉมศรี

ห้อมล้อมมากมี

ฟังเสียงบรรลือ

 

๐ บรรเลงสมบัติ

นับน้อยไปหรือ

ที่ตนนับถือ

สั่งสอนทุกวัน

 

๐ พระสงฆ์องค์อารีรัก

พระกรรมฐาน

นพรัตน์โอฬาร

ประเสริฐเพริศเพรา

 

๐ ลูกผัวที่รัก

รักเขาเสียเปล่า

เพื่อนม้วยด้วยเรา

เห็นไม่เป็นการ

 

๐ รักตนดีกว่า

บำเพ็ญศีลทาน

ให้พ้นสงสาร

ได้วิมานทอง

 

๐ ผู้ใดใจพาล

จะต้องจำจอง

เข้ามารับรอง

ตกจตุรบาย ฯ