อปรภาคกถา

ก่อนหน้า

อปรภาคกถา

ในกาลเป็นที่จบปุจฉาวิสัชนา แห่งพระเจ้ามิลินท์และพระนาคเสนเถระ มหาปฐพีซึ่งหนาแปดล้านสี่แสนโยชน์นี้ ได้หวั่นไหวหกส่วนจนถึงที่สุดแห่งน้ำ, สายฟ้าก็แลบลั่น, เทพดาทั้งหลายก็ยังฝนคือทิพยบุปผชาติให้ตกลง, ท้าวมหาพรหมก็ให้สาธุการ สำเนียงกึกก้องใหญ่เป็นราวกะเสียงกึกก้องแห่งฟ้าคะนอง ก็ได้มีในท้องมหาสมุทร.

พระเจ้ามิลินท์และราชบริพารทั้งหลายทรงน้อมอัญชลีด้วยเศียรเกล้าถวายนมัสการ ด้วยประการฉะนี้.

พระเจ้ามิลินท์ มีพระหฤทัยบันเทิงเกินเปรียบ มีความถือพระองค์ในพระหฤทัยทำลายเสียแล้ว ทรงทราบสิ่งที่เป็นแก่นสารในพระพุทธศาสนา ไม่มีความสงสัยในพระรัตนตรัยเป็นอันดี เป็นผู้ไม่มีความขุ่นพระหฤทัย ไม่มีพระหฤทัยกระด้าง ทรงเลื่อมใสในคุณทั้งหลาย และบรรพชาปฏิปทาดี อริยาบถทั้งหลายของพระเถระเกินเปรียบ เป็นผู้มีพระหฤทัยสละสลวยไม่ทรงอาลัย มีความถือพระองค์และเย่อหยิ่งอันกำจัดแล้ว ดุจพญานาคมีเขี้ยวอันถอนเสียแล้ว ได้รับสั่งอย่างนี้ว่า "พระผู้เป็นเจ้านาคเสน ดีแล้ว ๆ ปัญหาเป็นพุทธวิสัย พระผู้เป็นเจ้าวิสัชนาแล้ว, ในพระพุทธศาสนานี้ ยกพระธรรมเสนาบดีสารีบุตรเถระเสีย ผู้อื่นเช่นกับพระผู้เป็นเจ้ามิได้มี ในการที่จะวิสัชนาปัญหาได้. พระผู้เป็นเจ้านาคเสน ขอพระผู้เป็นเจ้าจงงดโทษล่วงเกินของข้าพเจ้า. พระผู้เป็นเจ้าจงทรงไว้ซึ่งข้าพเจ้า ว่าเป็นอุบาสกผู้ถึงสรณะตลอดชีวิต ตั้งแต่วันนี้ไป" ดังนี้.

กาลนั้น พระเจ้ามิลินท์พร้อมด้วยหมู่พล เสด็จไปหาพระนาคเสนเถระแล้ว ให้สร้างพระมหาวิหาร ชื่อมิลินทวิหาร ถวายพระเถระทรงบำรุงปฏิบัติพระนาคเสนเถระกับพระภิกษุขีณาสพประมาณร้อยโกฏิ ด้วยปัจจัยทั้งสี่. ทรงเลื่อมใสในปัญญาแห่งพระเถระอีก จึงทรงมอบราชสมบัติแด่พระโอรส เสด็จออกบรรพชา เจริญวิปัสสนาแล้วบรรลุพระอรหัต ด้วยประการฉะนี้.

ด้วยเหตุนั้น ท่านจึงกล่าวไว้ว่า:-

"ปัญญาเป็นธรรมชาติอันประเสริฐที่สุดในโลก, เพราะว่าเป็นไปเพื่อความดำรงอยู่แห่งพระสัทธรรม, บัณฑิตทั้งหลาย ฆ่าเสียซึ่งความสงสัยด้วยปัญญาแล้ว ย่อมถึงธรรมชาติเป็นที่ระงับ. ปัญญาตั้งอยู่ในขันธ์ใด, สติในขันธ์ใด มิได้บกพร่อง, ขันธ์นั้น ทรงไว้ซึ่งบูชาอันวิเศษ เป็นยอดยิ่งไม่มีอะไรเกินทีเดียว. เพราะเหตุนั้นแล บุคคลผู้ดำเนินด้วยปัญญา เมื่อเล็งเห็นประโยชน์ของตน พึงบูชาท่านผู้มีปัญญาดุจบูชาพระเจดีย์ ฉันนั้น," ด้วยประการฉะนี้.

ปัญหาเวยยากรณปกรณ์

แห่งพระเจ้ามิลินท์และพระนาคเสนเถระจบ

อ่านต่อ