กรรมฐาน วิธีแก้กรรม - ลดกรรมให้ตนเอง

กรรมฐาน วิธีแก้กรรม-ลดกรรม

หากเราทำกรรมไม่ดีไว้ควรทำอย่างไร พอจะสรุปเป็นข้อๆ ได้ดังนี้

1. ตัดกังวล เลิกคิด เลิกเศร้าเสียใจ เลิกจิตตก ไม่มีใครไม่เคยทำผิด แต่ทำผิดแล้วสำนึกได้ และไม่ทำอีก สำคัญกว่า

2. ปฏิบัติตามแนว ทาน ศีล ภาวนา (ทานทำให้รวย ศีลทำให้สวย ภาวนาทำให้ปัญญาดี)

- 2.1 ทาน ให้เพื่อลดกิเลสในตัว ทั้งความโลภและความโกรธจะมีพรหมวิหาร 4 (เมตตา กรุณา มุทิตา อุเบกขา) มากขึ้น

- 2.2 ถือศีล 5 เพื่อรักษากาย วาจาให้ปกติ ไม่ให้พลาดไปทำผิด เพราะธรรมชาติของใจคน จะไหลลง ที่ต่ำได้ง่ายกว่าขึ้นที่สูง ศีลเป็นทางนำให้เกิดสมาธิ นำไปสู่การเกิดปัญญา

- 2.3 เจริญภาวนา เพื่อให้ได้ปัญญารู้แจ้งตามความเป็นจริงของรูปนามคือ อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา (ไตรลักษณ์) และอสุภะ (สิ่งที่ไม่สวยไม่งาม เช่น ซากศพ) ทั้งสมถะกรรมฐาน และวิปัสสนากรรมฐาน

กรรมฐาน ทำได้โดยตั้งใจมั่น ไม่เสียสตางค์ แก้กรรมได้โดยตรงมีผลมากที่สุด เป็นบุญใหญ่ที่สุด บุญที่ได้ จากกรรมฐาน ได้ทั้งตัวเองและสามารถอุทิศแผ่เมตตาให้บุคคลอื่นๆ ได้ ทำได้ทุกชีวิตดีขึ้น

การทำบุญเสริมดวง

เมื่อจะลงทุนทำกิจการใหม่ๆ การงานใหม่ๆ หรือได้รับมอบหมายงานที่สำคัญ หรือมีเรื่องทุกข์ใจต่างๆ ให้ไปไหว้พระประธานที่วัด พร้อมถวายกล้วยสุกหนึ่งหวี และมะพร้าวน้ำหอมหนึ่งลูก ผลที่ได้ เรื่องยากๆ จะสำเร็จลง ได้ง่ายเหมือนกล้วย และน้ำมะพร้าวจะชะล้างความทุกข์ให้หมดไป

สิ่งที่ควรจำ ในเวลาที่ทำให้ตั้งจิตและอธิษฐานด้วยทุกครั้ง ให้ขอสิ่งที่เราต้องการ และสิ่งสำคัญคือ ต้องอุทิศผลบุญทั้งหลาย ให้แก่เจ้ากรรมนายเวรของเรา และขอให้อโหสิกรรมด้วยทุกครั้ง ไม่เช่นนั้น ที่ทำไปก็จะสูญเปล่า ผลบุญทั้งหลายจะตกไปแก่สัตว์โลกทั้งหลาย ที่มาตั้งจิตอธิษฐาน ขอความช่วยเหลือ อยู่ในบริเวณนั้น

.อารมณ์ก่อนตาย.

กาลเมื่อสัตว์ทั้งหลาย ใกล้จะถึงแก่มรณะ เข้าไปสู่แดนมฤตยู แล้วจะไปเกิดอยู่ในโลกอื่นต่อไปนั้น ในมรณาสันนวิถี คือวิถีจิตใกล้จะตาย ย่อมมีอารมณ์ 3 ประการ ปรากฏเป็นอารมณ์แห่งปฏิสนธิจิตก่อน ดังต่อไปนี้

1. กรรมารมณ์ ได้แก่ กรรมที่ตนเคยกระทำไว้แต่ก่อนๆ มาปรากฏให้ระลึกขึ้นได้ ในขณะที่กำลังร่อแร่ จะตายไป ในพริบตานี้ ถ้าเป็นผู้มีบาปเคยทำอกุศลกรรมไว้ ในขณะนี้จะปรากฏเป็นภาพให้เห็นชัดเจน ในมโนทวาร เช่น ตนเคยฆ่าคนไว้ ภาพที่ตนฆ่าคนก็มาปรากฏ คนเคยเตะ ถึบ ด่าว่า พ่อแม่เอาไว้ หรือ เป็นคนติดเหล้า ดื่มสุรา เป็นประจำ เคยทำอทินนาทาน ลักขโมย เคยประพฤติกามมิจฉา นอกใจสามี/ภรรยา เอาไว้ ก็จะปรากฏเป็นภาพ ให้เห็นชัดเจนอย่างที่ตัวทำไว้ไม่ผิดเพี้ยน เมื่อดับจิตตายลงก็น้อมนำไปเกิด ในทุคติภูมิ เช่น โลกนรก หากว่าตน เคยทำกุศลกรรมไว้ ก็จะเห็นภาพของตัวเองกำลังกระทำสิ่งต่างๆ อย่างชัดเจน ทำให้ใจคอชุ่มชื่น ก็จะน้อมนำ ไปเกิดในสุคติ

2. กรรมนิมิตตารมณ์ ได้แก่ อุปกรณ์ของการกระทำในอดีตมา ปรากฏให้เห็น เช่น ทำปาณาติบาต ฆ่าสัตว์ ฆ่าคน ต้องมีดาบ ปืน หรือทำบุญทำทานก็มีอาหาร ในขณะจะดับจิตจะมองเห็นภาพนั้นๆ อย่างชัดเจน

3. คตินิมิตตารมณ์ ได้แก่ นิมิตต่างๆ อันบ่งบอกถึงคติของโลกที่ตนจะต้องไปเกิดในเวลาที่ดับจิตไปแล้ว ส่วนมาก เป็นภาพที่ตนไม่เคยเห็นทั้งสิ้น แบ่งเป็นประเภทได้ ดังนี้

- ก. ถ้าจะเกิดในโลกนรก เมื่อจะขาดใจตายนั้น ย่อมเห็นเป็นเปลวไฟร้อนระอุ เห็นหม้อเหล็กแดง เห็นไม้งิ้ว หนามเหล็ก เห็นฝูงผีปีศาจ บางทีเห็นเป็นแร้งกา กำลังจะมาฉีกกัดเลือดเนื้อของตัวเอง ทำให้มีความตกใจ สะดุ้งกลัวใจสั่นระรัว ถ้าส่งเสียงได้ในขณะนี้ ก็จะร้องโวยวายให้คนช่วย นิมิตนี้ชี้ว่า เขาผู้นั้นต้องตกนรกแน่นอน

- ข. ถ้าผู้นั้นจะไปเกิดเป็นเปรต อสุรกาย ย่อมเห็นคตินิมิตเป็นหุบเขาหรือถ้ำ อันมืดมิด รู้สึกหิวโหยอาหาร และ กระหายน้ำเป็นกำลัง หรือเห็นเปรต อสุรการย มีร่างใหญ่โตน่าเกลียดน่ากลัว เนื้อตัวสกปรกรุงรัง นิมิตนี้ชี้ว่า เขาผู้นั้น จะได้ไปเป็นเปรตแน่นอน

- ค. ถ้าผู้นั้นจะไปเกิดเป็นสัตว์เดรัจฉาน ย่อมเห็นคตินิมิตเป็นทุ่งหญ้า ป่าไม้ เชิงเขา บางทีก็เห็นโค กระบือ หมู หมา เป็ด ไก่ นก ไส้เดือน เป็นต้น นิมิตนี้ชี้ว่า เขาผู้นั้นจะได้บังเกิดเป็นสัตว์เดรัจฉาน

- ง. ถ้าผู้ที่นั้นจะกลับมาเกิด เป็นมนุษย์ในโลกนี้อีก จะเห็นก้อนเนื้อเล็กๆ อยู่ในครรภ์มารดา ปรากฏ เห็นภาพ ชัดเจน แจ่มใส

- จ. ถ้าผู้นั้นจะได้ไปเกิด เป็นเทพบุตรธิดาในสวรรค์เทวโลก เขาย่อมเห็นคตินิมิตเป็น ทิพยวิมาน เห็นปราสาทราชวังอันสวยงาม เขาจะหลับตายอย่างสุขสงบ