นิวซีแลนด์

ถ้าคุณเคยดูหนังเรื่อง Lord of the Ring บางทีคุณคงรู้แล้วว่า Middle Earth นั้นอยู่ที่ไหนซักแห่งท่ามกลางหุบเขาในนิวซีแลนด์

มากกว่าเป็นบ้านของ Frodo Baggin และเพื่อนของเขา นิวซีแลนด์ยังเป็นเพื่อนบ้านที่ใกล้ชิดของออสเตรเลียในโซนโอชีเนีย ทางตอนใต้ของมหาสมุทรแปซิฟิก

ประเทศนี้มีสองส่วนเป็นเกาะ คือ เกาะเหนือ กับเกาะใต้ และเกาะเล็ก ๆ อีกนิดหน่อย

ซึ่งประเทศนี้มีประชากรแกะมากกว่าประชากรคนซะอีก นิวซีแลนด์มีประชากรอยู่ 4 ล้านคน ซึ่งเมื่อเทียบกับนิวยอร์ค 8.4 ล้านคนในปี 2009

นิวซีแลนด์ เป็นที่รู้จักกันในชื่อของ Aotearoa หมายความว่าเป็น ดินแดนแห่งเมฆสีขาว ในภาษาเมารี ซึ่งเป็นภาษาท้องถิ่นของที่นี่

นิวซีแลนด์ : ภาพลักษณ์รวม

- ประเทศเพื่อนบ้าน : ออสเตรเลีย ฟิจิ ตองก้า

- ขนาด : 104,454 ตารางไมล์

- ประชากร : 4,268,600 ( อันดับ 124 ของโลก )

- ความหนาแน่ประชากร : 40.9 คนต่อตารางไมล์

- เมืองหลวง : เวลลิงตั้น (ประชากร 179,466)

- ผู้ปกครองรัฐ : Queen Elizabeth II

- ผู้ปกครองรัฐบาล : นายกรัฐมนตรี John Key

- ค่าเงิน : ดอลล่าร์นิวซีแลนด์ (NZD)

- การนำเข้าหลัก : เครื่องจักร และอุปกรณ์ ยานพาหนะ และ อากาศยาน น้ำมัน อีเล็กทรอนิกส์ สิ่งทอ และพลาสติก

- การส่งออกหลัก : Russell Crowe, แร่ โลหะ ป่าไม้ สัตว์ เครื่องจักรขนส่ง และอุปกรณ์

- ประเทศคู่ค้าการนำเข้า : เยอรมัน 13.5%, สหรัฐ ฯ 10.2%, ฝรั่งเศส 8.1%, เนเธอแลนด์ 6.3%, เบลเยี่ยม 4.9%, อิตาลี 4.7%

- ประเทศคู่ค้าการส่งออก : สหรัฐฯ 15.7%, เยอรมัน 10.5%, ฝรั่งเศส 9.5%, เนเธอแลนด์ 6.9%, ไอร์แลนด์ 6.5%, เบลเยี่ยม 5.6%, สเปน 4.4% ,อิตาลี 4.4%

- Time Zone : GMT +12

- เว็บไซต์ : http://www.newzealand.govt.nz

ภาพรวมเศรษฐกิจ

ด้วยประชากรที่ไม่มาก เศรษฐกิจของนิวซีแลนด์ก็เลยค่อนข้างเล็ก GDP ซึ่งมีมูลค่าอยู่ที่ประมาณ 182 ล้าน ๆ นิวซีแลนด์ดอลล่าร์ ในปี 2009 ซึ่งอยู่อันดับ 60 ของเศรษฐกิจโลก แต่ว่าพึ่งดูถูกนิวซีแลนด์ ประเทศนี้เป็นประเทศที่มีการค้าแข็งแกร่งเมื่อเทียบกับขนาดแล้ว !

กิจกรรมทางเศรษฐกิจของพวกเขานั้นขึ้นอยู่กับการค้า ซึ่งส่วนใหญ่จะเกี่ยวกับออสเตรเลียและญี่ปุ่น และสหรัฐฯ การส่งออกนั้นเป็นตัวผลักดันเศรษฐกิจ ด้วยการส่งออก โลหะและขนสัตว์ นั้นคิดเป็นอันดับสามของ GDP รวม และผลิตภัณฑ์นมเป็นสินค้าออกส่วนใหญ่ และเนื้อเคยได้ยินบ้างรึเปล่า ?

การเกษตร และการท่องเที่ยวนั้นเป็นอุตสาหกรรมหลักของประเทศ มีหัตถกรรมอยู่บ้าง ด้วยเหตุนี้การนำเข้าเครื่องจักร และยานพาหนะ จึงมีเยอะ

ตั้งแต่พวกเขาได้เปิดกว้างในการลงทุนให้กับโลกภายนอก ธนาคารโลกบอกว่าพวกเขาเป็นประเทศหนึ่งที่เหมาะกับการลงทุน เป็นอันดับสองรองจากสิงคโปร์

นโยบายการเงินและการคลัง

Reserve Bank of New Zealand (RBNZ) ธนาคารกลางของนิวซีแลนด์มีบทบาทในการกำหนด และใช้นโยบายการเงินการคลัง ซึ่งมีหัวหน้าคือ Governor Alan Bollard RBNZ นั้นจะมีประชุมที่ 8 ปีต่อครั้ง RBNZ จะต้องรักษาระดับความมีเสถียรภาพของค่าเงิน การกำหนดอัตราดอกเบี้ย และดูแลอัตราแลกเปลี่ยน

เพื่อบรรลุวัตถุประสงค์เหล่านี้ RBNZ ต้องมั่นใจว่าเงินเฟ้อ ต่อปีนี้อยู่ที่ 1.5% ต่อปี มิเช่นนั้นรัฐบาลมีอำนาจสิทธิขาดในการไล่ประธานบอร์ดบริหารออกทุกเมื่อ

RBNZ มีเครื่องมือในการใช้นโยบายการเงินและการคลัง คือ :

The official cash rate (OCR) ซึ่งส่งผลต่ออัตราดอกเบี้ยระยะสั้น จะถูกกำหนดโดย ประธานของ RBNZ ซึ่งธนาคารกลางสามารถใช้ควบคุมอัตราดอกเบี้ยส่วนบุคคลและดอกเบี้ยสำหรับลูกค้าธุรกิจ

นโยบายตลาดแบบเปิดจะถูกใช้ในการควบคุมปริมาณเงินสำรองของธนาคารพาณิชย์ การคาดเดาเป้าหมายเงินต่อวันนี้ RBNZ สามารถใช้ในการคำนวณว่าจำนวนเงินเท่าไหร่ที่ถูกฉีดเข้าไปในระบบ ถึงจะเรียกว่าเหมาะสม

มารู้จักกับค่าเงิน NZD

ค่าเงินดอลล่าร์นิวซีแลนด์นี้ เป็นที่รู้จักกันในนามของกีวี ซึ่งเป็นนก เป็นเครื่องบิน เอ๊ะ เดี๋ยวก่อน นกอย่างเดียว ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของประเทศนิวซีแลนด์ ทีนี้มาดูลักษณะของค่าเงินนิวซีแลนด์กัน

มาดูโภคภัณฑ์กัน !

เมื่อเศรษฐกิจของนิวซีแลนด์นั้นขึ้นอยู่กับของการส่งออกสินค้าโภคภัณฑ์ และการเกษตร เศรษฐกิจของประเทศจึงเชื่อมต่อกับราคาของโภคภัณฑ์

ถ้าราคาโภคภัณฑ์สูงขึ้น จำนวนของเงินที่จ่ายให้กับการส่งออกของนิวซีแลนด์ก็เพิ่มขึ้น ซึ่งเป็นส่วนใหญ่ของ GDP ด้วยและทำให้ค่าเงินของ นิวซีแลนด์สูงขึ้นด้วย

ในทางกลับกับ ราคาโภคภัณฑ์ที่ลดลงส่งผลให้มูลค่าการส่งออกลดลง ทำให้ GDP นั้นต่ำทำให้ค่าเงินนั้นอ่อนค่าลงด้วย

ฉันเคลื่อนไหวแทบจะตามติดเงินดอลล่าร์ทุกฝีเก้า

ตั้งแต่ นิวซีแลนด์ กับออสเตรเลียเป็นประเทศคู่ค้ากัน ลักษณะเศรษฐกิจของออสเตรเลียมีผลกระทบอย่างใหญ่หลวงของนิวซีแลนด์

และเมื่อเศรษฐกิจของออสเตรเลียนั้นออกมาดี และนิวซีแลนด์ก็จะได้ประโยชน์ด้วยเช่นกัน !

...และเช่นเดียวกันกับ AUD ฉันเหมาะกับการเล่น Carry Trade !

เช่นเดียวกับออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ นั้นมีอัตราดอกเบี้ยสูงเมื่อเปรียบเทียบกับประเทศใหญ่ๆ อื่นๆ เช่น สหรัฐฯ อังกฤษ และญี่ปุ่น

ความแตกต่างของอัตราดอกเบี้ยระหว่างเศรษฐกิจนั้นเป็นเครื่องมือวัดกระแสเงินไหลเข้าออกได้เสมอ เมื่อนักลงทุนชอบผลตอบแทนที่มากกว่า พวกเขาจะขายค่าเงินที่มีอัตราดอกเบี้ยต่ำกว่า และ ซื้ออัตราดอกเบี้ยที่สูงกว่าแทน ซึ่งยิ่งอัตราดอกเบี้ยสูง เงินยิ่งไหลเข้า

I'd like more migration, please.

Because New Zealand's population is less than half the number of people living in New York, an increase in migration into the country has a huge effect on the economy. This is because as the population grows, the demand for goods and overall consumption increases.

ฉันค่อนข้างอ่อนไหวเช่นเดียวกัน

เศรษฐกิจนิวซีแลนด์นั้น ขับเคลื่อนด้วยการเกษตร ซึ่งหมายความว่าขึ้นอยู่กับสภาพภูมิอากาศจะมีผลกระทบต่อเศรษฐกิจอย่างมาก และถ้าเกิดไฟป่า มันก็ทำความเสียหายได้ถึง 1% ของ GDP ทำให้ส่งผลเสียต่อค่าเงิน NZD..

เครื่องมือชี้วัดทางเศรษฐกิจที่สำคัญของ NZD

Gross Domestic Product – เช่นเดียวกันกับประเทศอื่นๆ ซึ่ง GDP เป็นรายงานทางเศรษฐกิจของออสเตรเลีย ซึ่งบอกถึงลักษณะเศรษฐกิจของนิวซีแลนด์ และกระทบกับอุปสงค์ของ NZD

Consumer Price Index (CPI) – ดัชนีราคาผู้บริโภคนั้นวัดการเปลี่ยนแปลงของราคา เป็นการวัดเงินเฟ้อ ซึ่งดัชนี้นี้จะถูกจับตามองจากธนาคารกลางอย่างใกล้ชิดในการตัดสินความเปลี่ยนแปลงนโยบายการเงิน เพื่อรักษาเสถียรภาพของค่าเงิน ?

Balance of Trade – เนื่องจากนิวซีแลนด์เป็นประเทศที่อาศัยการส่งออก เทรดเดอร์ต้องจับตาดุลการค้าระหว่างประเทศของผลิตภัณฑ์ของนิวซีแลนด์

อะไรทำให้ NZD เคลื่อนไหว ?

การเติบโตทางเศรษฐกิจ

เมื่อ GDP เป็นบวกสะท้อนถึงสภาพเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งในนิวซีแลนด์ ทำให้อุปสงค์ของค่าเงินเพิ่มขึ้น และเมื่อ GDP เป็นลบทำให้เห็นถึงสภาพเศรษฐกิจอ่อนแอ ของประเทศและทำให้อุปสงค์ค่าเงินลดลง

คลื่นแห่งการส่งออก

อุปสงค์ของสินค้านิวซีแลนด์นั้นส่งผลให้ GDP สูงขึ้น ซึ่งในทางกลับกัน การส่งออกที่ลดลง ทำให้ค่าเงินลดลงด้วย

การเพิ่มสูงขึ้นของราคาโภคภัณฑ์

การเพิ่มขึ้นของราคาโภคภัณฑ์นั้นเพิ่มมูลค่าให้กับเงินของนิวซีแลนด์และมูลค่าการส่งออกเพิ่มขึ้นทำให้ GDP สูงขึ้น และถ้าราคาตกก็ทำให้มูลค่าของค่าเงินลดลงด้วยเช่นเดียวกัน

การเทรด NZD/USD

ค่าเงิน NZD/USD จะถูกเทรดโดยมีมูลค่าเป็นเงินดอลล่าร์สหรัฐฯ

มูลค่าต่อจุดจะถูกคำนวณโดยแบ่งเป็นจุด ตามอัตราค่าเงิน ของ NZD/USD (นั่นคือ 0.0001!) ตามอัตราแลกเปลี่ยน

กำไรและขาดทุนจะถูกคิดเป็นเงินดอลล่าร์สหรัฐฯ เช่น 100,000 NZD/USD จะมีมูลค่าที่ 10 ดอลล่าร์สหรัฐฯและขณะที่มูลค่าของ Mini Lot 10,000 NZD/USD ซึ่งมูลค่าจุดละ 1 ดอลล่าร์สหรัฐฯ

การคำนวณมาร์จิ้น จะถูกคำนวณเป็นค่าเงินสหรัฐฯ ถ้าค่าเงินของ NZDUSD คือ 0.7000 และ leverage เท่ากับ 100:1 ต้องใช้มาร์จิ้น 700 USD สำหรับมูลค่า 100,000 NZD และ 10,000 NZD ก็จะต้องใช้มาร์จิ้นเท่ากับ 70 USD

คุณก็เห็นแล้วว่า เพราะว่า ค่าเงินออสเตรเลียนั้นมีความสัมพันธ์ตรงข้ามกันกับ USD ซึ่งมันทำให้ใช้มาร์จิ้นน้อยมากกว่าค่าเงินอื่น หมายความว่า มันถูกกว่าในการเทรดค่าเงินดอลล่าร์นิวซีแลนด์

เทคนิคการเทรด NZD/USD

รายงานเศรษฐกิจที่ออกมาดีของนิวซีแลนด์ ทำให้ค่าเงินแข็งขึ้น ซึ่งจะเป็นโอกาสดีเมื่อข่าวออกมา เราก็ควรจะส่ง order Buy NZD/USD

และเมื่อรายงานเศรษฐกิจออกมาไม่ดี ทำให้ค่าเงิน ดอลล่าร์นิวซีแลนด์อ่อนค่าลง และเราก็ควรจะส่ง order Sell NZD/USD

นอกจากเราจะต้องใส่ใจกับรายงานทางเศรษฐกิจ การให้ความสนใจกับราคาโภคภัณฑ์ ที่ใช้เป็นสัญญาณเทรด NZD/USD

ส่วนใหญ่ ราคาของโภคภัณฑ์ จะขึ้นลงเมื่อสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงมากกว่า สูงขึ้น ซึ่งช่วงนี้นักลงทุนจะลงทุนของเขาในสินทรัพย์ที่มีผลตอบแทนสูงกว่า เช่นทอง หรือว่าโภคภัณฑ์อื่นๆ และขายเงินดอลล่าร์ซึ่งมีอัตราดอกเบี้ยต่ำกว่า ดังนี้ เมื่อราคาโภคภัณฑ์สูงขึ้นค่าเงินนิวซีแลนด์ดอลล่าร์ก็จะมีค่าสูงขึ้นตาม

อีกแง่หนึ่ง เมื่อความเสี่ยงทำให้นักลงทุนย้ายการลงทุนไปในสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงต่ำทำให้ค่าเงินนิวซีแลนด์ดอลล่าร์อ่อนค่าลง

เช่นเดียวกับ AUD ค่าเงิน NZD เหมาะสำหรับการเล่นแบบ carry trade เพราะว่าการเล่นแบบ Carry Trade เกี่ยวกับการซื้อค่าเงินที่อัตราดอกเบี้ยสูงและขายค่าเงินที่อัตราดอกเบี้ยต่ำ

เนื้อหาต่อไป : สวิตเซอร์แลนด์

เนื้อหาก่อนหน้า : ออสเตรเลีย