บทที่ 9

Overbought - Oversold Index (OBOS)

เป็นการนำเครื่องมือ AD-LINE มาปรับให้เรียบขึ้นโดยอาศัยการเฉลี่ยเคลื่อนที่เพื่อหาสัดส่วนระหว่าง ค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ของจำนวนหุ้นที่สูงขึ้นในรอบ N วันที่ผ่านมา กับค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ของจำนวนหุ้นที่ราคาต่ำลงในรอบ N วันที่ผ่านมาจำนวนวันที่ใช้(N) ก็แล้วแต่ว่าจะดูระยะสั้นหรือยาวเช่น 10 หรือ 25 วัน

OBOS ใช้เป็นสัญญาณเตือนการเปลี่ยนทิศที่อาจเกิดขึ้น เช่นเมื่อตลาดเข้าสู่ภาวะที่ร้อนแรงเกินไป จำนวนหุ้นที่มีราคาปิดสูงขึ้น มีมากกว่าหุ้นที่มีราคาปิดลดลงอยู่มาก และเป็นระยะเวลานาน เป็นสัญญาณว่ามีการซื้อและลากราคาให้สูงเกินไป (Overbought) หรือในภาวะที่ตลาดตกต่ำมาก มีการขายและจำนวนหุ้นที่ราคาตกมีมาก และเป็นอยู่นานเกินไปเป็นภาวะ Oversold

ค่าของ OBOS โดยทั่วไปจะอยู่ในช่วง 0.5 ถึง 2 การเลือกว่า OBOS สูงหรือต่ำเท่าใดจึงจะเรียกว่า Overbought หรือ Oversold นั้น ขึ้นอยู่กับภาวะตลาดในเวลานั้น วิธีหนึ่งที่ใช้กันก็คือ ถ้าเกินกว่า 1.25 ให้ถือเป็น Overbought และถ้า OBOS สูงกว่า 1.25 (อยู่ในช่วง Overbought) แต่ OBOS วันนี้ลดลงจากเมื่อวานนี้ 0.05 ก็ถือว่าเป็นสัญญาณขาย ช่วง Oversold อาจจะเปลี่ยนไปตั้งแต่ 0.5 ถึง 0.75 ก็ได้แล้วแต่ภาวะตลาด และสัญญาณซื้อก็คิดแบบเดียวกันคือ ถ้า OBOS อยู่ในช่วง Oversold แต่ปรับตัวสูงขึ้นตั้งแต่ 0.05 เป็นต้นไปในวันใดวันหนึ่งให้ถือเป็นสัญญาณซื้อ

อย่างไรก็ดี วิธีกำหนดสัญญาณซื้อหรือขายจาก OBOS นี้มีความแม่นยำค่อนข้างน้อย เพราะบางครั้งตลาดอาจจะอยู่ในช่วง Oversold หรือ Overbought เป็นเวลานาน แต่บางครั้งอาจจะอยู่เพียงพักเดียว ดังนั้นด้วยตัวของมันเองแล้ว OBOS มีความหมายค่อนข้างน้อย แต่จะเป็นเครื่องมือที่ดีเมื่อใช้ OBOS เป็นตัวยืนยันเครื่องมือวิเคราะห์ทางเทคนิคอื่นๆ ที่ใช้วัดการเปลี่ยนแนวโน้ม เช่น ระบบค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่เป็นต้น

เนื้อหาต่อไป : McClellan Oscillator (MO)

prevcontentnext

เนื้อหาก่อนหน้า : เครื่องชี้วัดภาวะตลาด Market Indicators