บทที่ 15
ดาวตกและฆ้อนกลับหัว (Shooting Star and Inverted Hammer)
ดาวตก (รูปที่ 15.6) มีรูปร่างเหมือนแท่งร่ม (Umbrella Line) ที่เคยพูดถึงไปแล้วนะครับ แต่รูปร่างกลับหัวกัน กล่าวคือ เทียนจะไม่มีไส้ด้านล่าง (สีอะไรก็ได้) แต่มีไส้ด้านบนที่ยาวมาก ต้องยาวอย่างน้อย 2 เท่าของ ตัวแท่งเทียนนะครับ ดูแล้วเหมือนดาวตกเชียวแหละ (ก็ทิ่มหัวดิ่งออกอย่างนั้น) และมันก็มีความหมายเหมือนดาวตกจริงๆครับ คือ เมื่อมันเกิดขึ้นในขณะที่แนวโน้มของราคากำลังขึ้น (Bullish Trend) ก็เป็นสัญญาณว่าตลาดอาจจะเปลี่ยนทิศทางได้
ลองคิดถึงวันที่เกิด Shooting Star ดูนะครับ วันนั้นราคาหุ้นเปิดที่ระดับใกล้ต่ำสุด (หรือไม่ก็ต่ำสุดไปเลย ในกรณีที่แท่งเทียนมีสีดำ) และจากนั้นก็มีการพยายามดันราคาขึ้นไปถึงจุดสูงสุด ซึ่งก็สูงพอดูล่ะครับ เพราะไส้ด้านบนมันยาวไม่น้อยกว่า 2 เท่าของตัวเทียน จากนั้นก็หมดแรง ตกม้าตาย และตลาดก็ปิดที่ต่ำสุด หรือเกือบจะต่ำสุด (แล้วแต่สีของแท่งเทียน) จะเห็นได้ว่า วันนั้นต้องมีคนเจ็บตัวไม่น้อยทีเดียว และถ้าตลาดในช่วงที่ผ่านมามี แนวโน้มขึ้นมาเยอะแล้ว คนที่เจ็บตัวจะเริ่มรู้สึกหนาว เพราะว่าโอกาสที่ราคาจะขยับขึ้นไปอีก อาจจะ น้อยกว่าโอกาสที่ราคาจะปรับตัว และบางคนจะเริ่มระบายของทิ้ง เพราะฉะนั้น ถ้าไส้เทียนด้านบนยิ่งยาวเท่าไหร่ คนที่เจ็บตัวก็ยิ่งเจ็บตัวมาก และสัญญาณของ Shooting Star จะยิ่งเข้มข้นขึ้นเท่านั้น
ทีนี้ในกรณีที่ตลาดในช่วงที่ผ่านมามีแนวโน้มลง (Bearish Trend) ล่ะ ในกรณีนี้ แทนที่จะเรียกว่า Shooting Star เรากลับเรียกว่าค้อนกลับหัว หรือ Inverted Hammer (รูปที่ 15.6) แทน ทั้งๆที่ความจริงแล้ว รูปร่างเหมือนกันเลย Inverted Hammer เป็นตัวบอกสัญญาณว่า แนวโน้มลงนั้น อาจจะถึงจุดต่ำสุดแล้วก็ได้ และตลาดอาจจะเปลี่ยนแนวโน้มเป็นขึ้นได้
อย่างไรก็ดี สัญญาณของ Inverted Hammer จะอ่อนกว่าสัญญาณของ Shooting Star มาก ทั้งนี้เพราะถ้าเราคิดถึงวันที่เกิด Inverted Hammer จะเห็นว่า วันนั้น ราคาหุ้นเปิดที่ระดับใกล้ต่ำสุด และมีการดันราคาขึ้นแต่ไปไม่รอด และตลาดปิดที่ใกล้ต่ำสุดหรือต่ำสุด เหมือนเดิม อันที่จริงแล้วควรจะพูดได้ว่า แนวโน้มไม่เห็นน่าจะเปลี่ยนตรงไหน จริงๆแล้วมันก็ขึ้นอยู่กับว่า วันพรุ่งนี้ตลาดจะเป็นยังไง ถ้าตลาดในช่วงที่ผ่านมาลงมาเยอะแล้ว และวันรุ่งขึ้นราคาถีบตัวสูงขึ้นไป คนที่ขายไปเมื่อวานนี้ อาจจะเริ่มรู้สึกหนาวบ้าง เพราะว่าโอกาสที่หุ้นจะขึ้นมีเยอะกว่าโอกาสที่จะลงไปอีก อย่างไรก็ดี แนวความคิดนี้แม้ว่าจะมีเหตุผลอยู่บ้าง แต่ก็เป็นเหตุผลที่ค่อนข้างอ่อน คงต้องอาศัยความรู้สึก (Mood)ของคนในตลาดช่วยด้วย
ดังนั้น เมื่อมีรูปแบบ Inverted Hammer เกิดขึ้น ขอแนะนำให้ท่านรอดูวันรุ่งขึ้นด้วย อย่างเพิ่งผลีผลาม ต้องใช้ความรู้สึกของตลาดเข้าช่วยด้วยว่า คนที่ขายไปเมื่อวานนี้จะทำอย่างไรกัน นอกจากนี้ การใช้เครื่องมือทางเทคนิคอื่นๆ หรือ การดูตลาดในช่วง 2-3 วันที่ผ่านมาก็อาจจะช่วยยืนยันได้ เช่นถ้าราคาในช่วง 2-3 วันที่ผ่านมากระจุกตัวอยู่ในช่วงใกล้ๆกับตัว Inverted Hammer และที่ตรงนั้นอยู่ใกล้ระดับแนวรับพอดี แสดงว่าราคาพยายามฝ่าทะลุแนวรับอยู่ แต่ท่าทางไม่ค่อยจะไหว อย่างนี้ก็ทำให้สัญญาณดูหนักแน่นขึ้นมากครับ