ประเภทของ Breakouts
เมื่อคุณเทรดโดยใช้ Breakout คุณจะต้องรู้ว่า มีประเภทของBreakouts สองประเภทดังนี้ :
1. breakouts แบบเทรนด์ต่อเนื่อง
2. breakouts แบบเกิดจุดกลับตัว
ถ้าคุณรู้ว่า Breakouts ที่เกิดเป็นประเภทไหนจะทำให้คุณเข้าใจภาพรวมของตลาดว่าเกิดอะไรขึ้นกับตลาดในช่วงเวลานั้น
Breakouts มีความสำคัญเพราะว่า Breakout บอกการเปลี่ยนแปลงของ Supply กับ Demand ของค่าเงินในช่วงที่คุณกำลังเทรด การเปลี่ยนแปลงเหล่านี้เป็นสาเหตุของการเคลื่อนไหวของราคาซึ่งมีโอกาสในการทำกำไรซ่อนอยู่ด้วยถ้าคุณมองมันออก
Breakout แบบเทรนด์ต่อเนื่อง
บางครั้งเมื่อทิศทางราคามีการเคลื่อนไหวในทิศทางใดทิศทางหนึ่ง จะมีการหยุดพักทำราคาฐานเสมอ ซึ่งนี่เกิดขึ้นเมื่อผู้ซื้อและผู้ขายหยุดเพื่อรอดูว่าพวกเขาควรจะทำอย่างไรต่อไป ในช่วงนี้จะเป็นช่วงที่ราคามีการแกว่งตัว เราเรียกว่า Consolidation (จุดที่ราคามีความแข็งแกร่งจนไม่สามารถผ่านไปได้)

ถ้าเทรดเดอร์ตัดสิน Breakout ได้ถูกต้อง และพยายามจะเทรดในทิศทางเดียวกันนั้น ผลก็คือจะเกิด Breakout ขึ้นต่อไป ให้คิดแค่ว่าเทรนด์จะมีต่อไปอย่างแน่นอน.... เรารู้ว่าคุณทำได้!

Breakouts แบบจุดกลับตัว
Breakouts แบบจุดกลับตัว มีจุดเริ่มต้นแบบเดียวกันกับ Breakout แบบเทรนด์ต่อเนื่องและหลังจากการเกิดเทรนด์มายาวนาน ราคาอาจจะมีการหยุด และแกว่งตัว

แต่ข้อแตกต่าง ของจุด Breakouts แบบจุดกลับตัวนี้คือ เทรดเดอร์ตัดสินใจว่าเทรนด์นั้นหมดแล้วและได้ดันราคาไปในทิศทางตรงข้ามกับทิศทางก่อนหน้า ซึ่งคุณต้องรีบเข้าหน่อย ก่อนจะตกรถ!

สัญญาณ Breakouts
ตอนนี้เรารู้ว่าคุณกำลังอดใจรอไม่ไหวแล้วที่จะเทรดโดยใช้ Breakout (บอกทีซิว่า ยังไม่ได้เทรด) แต่ว่าคุณต้องระวังด้วย เหมือนกับ Kobe Bryant สามารถหลอกแนวรับให้หลงงงงวย ในบาสเก็ตบอล NBA ได้ ตลาดก็สามารถสร้างสร้างสัญญาณ Breakouts หลอกได้เหมือนกัน
สัญญาณ Breakouts หลอกสามารถเกิดขึ้นได้เมื่อราคาผ่านระดับที่แน่นอนแล้ว (แนวรับแนวต้าน หรือรูปแบบสามเหลี่ยนมต่างๆ รวมทั้งเส้นเทรนด์ไลน์) แต่ว่าไม่ได้เคลื่อนไหวต่อในทิศทางนั้น แต่คุณจะเห็นว่าราคากลับมาที่จุดแกว่งตัว

วิธีเข้าเทรดที่ดีในการใช้ Breakout คือต้องรอจนกว่าราคาพักฐานมายังจุดที่ราคาเกิด Breakout และรอให้มันเคลื่อนไหวพยายามที่จะเกิดจุด High หรือ Low จุดใหม่ (ซึ่งขึ้นอยู่ว่าคุณเทรดทิศทางใด)

อีกวิธีหนึ่งในการต่อสู้กับ Breakouts คือไม่ต้องเทรดกับ Breakout แรกที่คุณเห็น แล้วรอดูว่าราคายังคงเคลื่อนไหวไปในทิศทางนั้นต่อเนื่องหรือไม่ ให้รอจังหวะที่คุณมั่นใจมากที่สุด ข้อเสียของวิธีนี้คือคุณอาจจะไม่ได้เทรดในบางจังหวะซึ่งราคาได้เคลื่อนไหวอย่างรวดเร็ว อย่างต่อเนื่องโดยไม่มีการพักฐาน