การระบุการเกิด Breakouts
เหมือนกับ Breakouts ที่คุณเข้าใจ ข้อดีของ Breakout คือโอกาสที่เราสามารถมองเห็นด้วยตาของเราเอง โดยไม่ต้องใช้เครื่องมือพิเศษอะไรมากนัก!
เมื่อคุณเริ่มใช้สัญญาณ Breakout คุณสามารถจะระบุสัญญาณที่ใช้ในการเทรดได้อย่างรวดเร็วและแม่นยำ
รูปแบบกราฟ
ตอนนี้คุณควรจะชินกับการมองดูกราฟและจำรูปแบบของกราฟต่าง ๆที่บอกจุด Breakout ได้ ดังนี้:
- Double Top/Bottom
- Head and Shoulders
- Triple Top/Bottom
(ขออนุญาติไม่แปล ใช้เรียกตรงตัวดีกว่า)
ถ้าคุณอยากได้รายละเอียดให้ไปดูบทเรียนเรื่อง รูปแบบกราฟที่เราได้ศึกษามาก่อนหน้า
ยิ่งไปกว่านั้น รูปแบบกราฟจะมีเครื่องมือที่บอกจุดกลับตัวและตัว Indicator ซึ่งคุณสามารถใช้ในการสนับสนุนการตัดสินใจในการระบุจุด Breakout ที่เกิดจุดกลับตัว
เส้นเทรนด์ไลน์ (Trend Lines)
วิธีแรกในการระบุในการเกิด Breakout คือการขีดเส้น Trend line ในกราฟ และวาดเส้นเทรนด์ไลน์ตามแบบที่คุณเคยวาดตามเทรนด์ที่เกิดขึ้น

เมื่อคุณวาดเส้น Trend line นั้นคุณควรจะลากจากจุด Top ของแต่ละจุดติดต่อกันอย่างน้อยสองจุด หรือว่าจุดBottom ด้วยก็ได้เช่นกัน ยิ่งจุดที่คุณลากมาต่อกันยิ่งมาก นั่นยิ่งบอกว่าเทรนด์ไลน์มีความแข็งแกร่งมากขึ้น
แล้วคุณจะใช้เทรนด์ไลน์อย่างไรให้ได้เปรียบ? เมื่อราคาเขาใกล้เส้นเทรนด์ไลน์ที่คุณวาดขึ้น มีสองอย่างที่อาจจะเกิดขึ้น ราคาอาจจะมาพักฐานเท่านั้น แล้วก็ไปต่อ หรืออาจจะเกิด Breakout ทะลุขึ้นเหนือเทรนด์ไลน์ และเกิดจุดกลับตัว เราต้องฉวยโอกาสจากจุด Breakouts นี้!
การดูแค่ราคาอาจจะไม่พอ ซึ่งสิ่งที่คุณต้องทา คือใช้ Indicator หรือ เครื่องมืออื่น ๆ ในการยืนยันสัญญาณจะช่วยคุณได้มาก

การดูแค่ราคาอาจจะไม่พอ ซึ่งสิ่งที่คุณต้องทา คือใช้ Indicator หรือ เครื่องมืออื่น ๆ ในการยืนยันสัญญาณจะช่วยคุณได้มาก
Channels
อีกวิธีหนึ่งในการระบุการเกิด Breakout คือการวาดเส้น Channel ซึ่งไม่ได้แตกต่างจากการใช้ Trend line ยกเว้นแต่ว่าหลังจากที่คุณวาดเส้นเทรนด์ไลน์คุณต้องวาดทั้งด้านบนและด้านล่าง

Channels มีประโยชน์สำหรับคุณเพราะว่าสามารถบอกจุด Breakout ได้ทั้งสองด้านของเทรนด์ซึ่งลักษณะการใช้ก็ใกล้เคียงกับการใช้ Trend line คือถ้ามันเข้าใกล้เส้นใดเส้นหนึ่งและรอให้มันเกิด Break out

ให้สังเกตุ MACD กำลังปรากฏภาวะตลาดหมีอย่างชัดเจนเมื่อมันทะลุเส้น Channel ข้างล่างลงมา ซึ่งเป็นสัญญาณที่เราควรจะส่ง order Sell !
Triangles (รูปแบบสามเหลี่ยม)
วิธีที่สามที่เราสามารถระบุการเกิด Breakout คือการใช้รูปแบบสามเหลี่ยม รูปแบบสามเหลี่ยมจะเกิดขึ้นเมื่อตลาดเริ่มมีความผันผวนและเริ่มบีบตัวเป็นรูปสามเหลี่ยม จุดประสงค์ของเราคือ เมื่อตลาดบีบตัวแคบลง เราสามารถดักจับการเกิด Breakout ได้
รูปแบบสามเหลี่ยมมี 3 แบบ:
1. สามเหลี่ยมเฉียงขึ้น (Ascending triangle)
2. สามเหลี่ยมเฉียงลง (Descending triangle)
3. สามเหลี่ยมธง (Symmetrical triangle)
สามเหลี่ยมเฉียงขึ้น (Ascending Triangles)
รูปแบบสามเหลี่ยมเฉียงขึ้น เกิดขึ้นเมื่อมีแนวต้านเกิดขึ้น และราคาเกิดราคาต่ำสุดมีการขยับขึ้นทุกครั้ง ซึ่งเป็นสัญญาณว่าจะเกิดภาวะตลาดกระทิง ในไม่ช้าเพราะว่าผู้ซื้อมีโมเมนตั้มเยอะกว่าทางด้านผู้ขาย

สิ่งที่เกิดขึ้นในตัวสามเหลี่ยมเฉียงขึ้นคือราคาจะขึ้นไปถึงจุด High ทุกครั้งแต่ว่าฝั่งผู้ขายก็พยายามดึงราคากลับลงมา ผลก็คือทำให้ราคานั้นย่อกลับลงมา
อีกด้านหนึ่ง คือเมื่อเทรดเดอร์เห็นว่าราคาควรจะสูงกว่านี้และเมื่อราคาเริ่มลดลง ฝั่งผู้ซื้อก็เลยซื้อในราคาที่สูงกว่าราคา Low ครั้งก่อนหน้า ผลก็คือราคามันติดอยุ่ระหว่างตลาดหมีกับตลาดกระทิง...

สิ่งที่เรากำลังรอคอยคือการเกิด Breakout เมื่อเกิดสามเหลี่ยมเฉียงขึ้น ขึ้นซึ่งโดยทั่วไปเป็นสัญญาณตลาดกระทิง เมื่อเราเห็นมันทะลุแนวต้านมา คุณควรส่ง order Buy สำหรับสถานการณ์นี้

สามเหลี่ยงมเฉียงลง (Descending Triangles)
สามเหลี่ยมเฉียงลงเป็นรูปแบบตรงกันข้ามกับสามเหลี่ยมเฉียงขึ้น ฝั่งผู้ขายกำลังสร้างแรงกดดันให้กับทางด้านผู้ซื้ออย่างต่อเนื่อง และผลก็คือ ราคาเกิดภาวะ ราคาสูงสุดได้มีการลดต่ำลงเรื่อย ๆ และมีแนวรับอยู่ข้างล่าง

สามเหลี่ยมเฉียงลงจะเป็นสัญญาณภาวะตลาดหมี เราจะใช้ความได้เปรียบนี้ในการเปิด order ในด้าน Sell ถ้าราคาทะลุแนวรับ หรือเกิด Breakout ลงไปจากเส้นแนวรับ

รูปแบบสามเหลี่ยม(ธง) (Symmetrical Triangles)
สามเหลี่ยมประเภทที่สามคือ สามเหลี่ยมธง หรือ สามเหลี่ยมธรรมดา แต่ว่าจะไม่มีเส้นแนวรับแนวต้าน แต่ว่าจะมีรูปแบบราคาสูงสุดลดต่าลง และราคาต่ำสุดที่เพิ่มขึ้นมาเป็นรูปสามเหลี่ยม ซึ่งจะมาบรรจบกันที่ไหนซักที่หนึ่ง ณ จุดกึ่งกลาง

ซึ่งสิ่งที่ไม่เหมือนกับสามเหลี่ยมเฉียงขึ้นและสามเหลี่ยมเฉียงลงที่บอกภาวะตลาดหมีและตลาดกระทิงคือ สามเหลี่ยมธงนี้จะไม่มีการบอกทิศทางว่าจะเป็นตลาดหมีหรือตลาดกระทิงจำเพาะไว้ คุณต้องเตรียมพร้อมเสมอเมื่อมันเกิดจุด Breakout ไม่ว่าด้านไหนก็ตาม!

จากตัวอย่างคุณจะเห็นว่าคุณต้องเตรียมตัวให้พร้อมกับการเกิด Breakout ทั้งสองด้าน คุณอาจจะใช้การส่ง order แบบ Pending Order (ถ้าไม่รู้จักรีบหาดูด่วน) ไว้ซักด้านหนึ่ง!

ในเหตุการณ์นี้ GBP/USD เกิด Breakout ด้านบนและเราส่ง order Buy ทันที