บทสรุปของกราฟแท่งเทียน
กราฟแท่งเทียนจะบอกราคา open, high, low และ close
- ถ้าราคาปิดสูงกว่าราคาเปิด กราฟจะเป็นแท่งโปร่งโดยทั่วไปจะแทนสีขาว
- ถ้าราคาปิดอยู่ต่ำกว่าราคาเปิด และกราฟเป็นสีทึบโดยปรกติจะเป็นสีดำ
- ไม่ว่าจะเป็นแท่งโปร่งหรือทึบ ของแท่งเทียน ก็จะเรียกว่า ตัวแท่งเทียน
- เส้นบางๆ ที่ทะลุจากตัวเทียนข้างล่าง หรือข้างบนของตัวเทียนจะแสดงราคาสูงต่ำ เรียกว่า ไส้เทียน
- จุดสูงสุดของไส้เทียนคือ “high”
- จุดต่ำสุดของไส้เทียนคือ “low”
ตัวเทียนที่ยาว
บ่งบอกถึงเทรนด์การซื้อการขายที่แข็งแกร่ง ยิ่งตัวแท่งเทียนยิ่งยาว ยิ่งบอกถึงแรงซื้อแรงขายที่ผู้ซื้อหรือผู้ขายกระทำต่อตลาด
ตัวเทียนที่สั้น
บอกถึงการซื้อการขายที่มีปริมาณน้อย ในภาษาโฟเร็ก กระทิงคือผู้ซื้อ และ หมีคือผู้ขาย
ไส้เทียนข้างบน
บอกถึงราคาที่ขึ้นไปสูงของช่วงเวลานั้น
ไส้เทียนข้างล่าง
บอกถึงราคาที่ต่ำสุดของช่วงเวลานั้น
กราฟแท่งเทียนที่มี ไส้เทียนด้านบนยาว หรือ ไส้เทียนด้านล่างยาว และมีตัวเทียนเล็กๆ อยู่ระหว่างไส้เทียนเรียกว่า Spinning Top ซึ่งบอกอารมณ์ตลาดได้ว่า ไม่สามารถตัดสินได้ระหว่างผู้ซื้อกับผู้ขาย
Marubozu
หมายถึง ไม่มีไส้เทียนจากตัวเทียน ขึ้นอยู่กับว่าตัวเทียนนั้นจะเป็นสีทึบหรือว่าสีโปร่ง เพราะจุดสูงสุดและต่ำสุดของราคา เป็นจุดปิดและจุดเปิดในตัวเดียวกัน
Doji
มีราคาเปิดและราคาปิดที่จุดเดียวกัน หรือใกล้เคียงกัน และตัวเทียนนั้นแทบจะไม่มีหรือมีน้อยมากที่สุด
Hammer
เป็นรูปแบบการกลับตัวสู่ภาวะกระทิง ซึ่งเกิดจากการเกิด เทรนด์ขาลงในช่วงเวลาก่อนหน้า ที่ได้ชื่ออย่างนี้ เพราะว่า ตลาดได้ฟื้นจากภาวะเทรนด์ขาลง
Hanging man
เป็นรูปแบบการเกิดการกลับตัวสู่ภาวะตลาดหมี ซึ่งสามารถบอกว่าจุดนั้นเป็นจุดแนวต้านที่แข็งแกร่ง
Inverted hammer หรือ Hammer
กลับหัวเกิดขึ้นเมื่อราคาได้ร่วงมาอย่างต่อเนื่องและมีความเป็นไปได้ในการเกิดจุดกลับเทรนด์
Shooting star
เป็นรูปแบบการกลับตัวเข้าสู่ภาวะตลาดหมี ซึ่งมีลักษณะคล้ายกับ Inverted Hammer แต่ว่าเกิดขึ้นเมื่อราคาได้ขึ้นติดต่อกัน