แคนาดา

โอ๊ว แคนาดา เป็นเพื่อนกับลุงแซม รักสิ่งแวดล้อม ได้รับอิทธิพลจากฝรั่งเศส และค่อนข้างเย็น ซึ่งเป็นสถานที่หนึ่งที่รู้จักกันในสถานที่ที่ มหัศจรรย์แห่งหนึ่งในโลก เช่น บาสเก็ตบอล เบสบอล ไซรัป และ Smarties

แคนาดา เป็นประเทศที่อยู่เหนือสุดของทวีปอเมริกาเหนือ ซึ่งยื่นเข้าไปในมหาสมุทรแอทแลนติคไปยังทางทิศตะวันออก ด้านทิศตะวันตกอยู่ในมหาสมุทรแปซิฟิก มีทั้งหมด 10 รัฐและสามภาค ซึ่งเป็นประเทศพัฒนาแล้วประเทศหนึ่งในโลก

ถ้าเทียบดินแดนกัน แคนาดาเป็นประเทศที่มีขนาดใหญ่หลังจากที่รัสเซียนั้นแยกตัวออก และแคนาเดียนดอลล่าร์ก็มีความสำคัญต่อโลกนี้เช่นกัน

แคนาดา : ภาพลักษณ์รวม

- เพื่อนบ้าน : สหรัฐฯ

- ขนาด : 3,855,101 ตารางไมล์

- ประชากร : 33,311,389

- ความหนาแน่นประชากร : 8.6 people per square mile

- เมืองหลวง : ออตาวา

- ประมุขของประเทศ : Queen Elizabeth II รักษาการ Governor-General Michaelle Jean

- นายกรัฐมนตรี : Stephen Harper

- ค่าเงิน : ดอลล่าร์แคนาดา (CAD)

- สินค้านำเข้าหลัก : เครื่องจักรและอุปกรณ์ เครื่องยนต์ และอะไหล่ ชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ น้้ามันดิบ สารเคมี และสินค้าคงทนอื่น ๆ

- สินค้าส่งออกหลัก : ยานยนต์ และอะไหล่ อุตสาหกรรมเครื่องจักร อากาศยาน อุปกรณ์สื่อสาร อิเล็กทรอนิกส์ สารเคมี พลาสติก ปุ่ย ไม้ น้้ามันดิบ ก๊าซธรรมชาติ อลูมิเนียม Steve Nash, Sidney Crosby

- ประเทศคู่ค้านำเข้า : สหรัฐอเมริกา 54.1%, จีน 9.4%, เม็กซิโก 4.2%

- ประเทศคู่ค้าส่งออก : สหรัฐฯ 78.9%, อังกฤษ 2.8%, จีน 2.1%

- Time Zones : GMT -8, GMT -7, GMT -6, GMT -5, GMT -4

- เว็บไซต์ : http://www.canada.gc.ca/home.html

ภาพรวมเศรษฐกิจ

แคนาดาเป็นประเทศหนึ่งที่มีทรัพยากรมากซึ่งหมายความว่า เศรษฐกิจที่เติบโตขึ้นนั้นมีส่วนมาจากการส่งออกทรัพยากรธรรมชาติในประเทศ

ตามข้อมูลของ IMF เศรษฐกิจของแคนาดา นั้นเป็นอันดับแปดของโลกซึ่งทำให้แคนาดาอยู่ในกลุ่มประเทศ G8 ด้วย และยังเป็นอันดับ 50 ของประเทศที่ผลิตทองและเป็นอันดับ 14 ของประเทศผู้ผลิตน้ำมันรายใหญ่ของโลก

แม้ว่าจะมีความเจริญรุ่งเรืองด้านอุตสาหกรรม แต่ว่า GDP ของแคนาดาส่วนใหญ่นั้นมาจากธุรกิจภาคบริการ ซึ่งคิดเป็นทั้งหมด 70% ของ GDP ทั้งประเทศ ครั้งต่อไปที่คุณเจอคนแคนาดาให้คุณเดินไปหาเขาแล้วเดิมพันว่าเขาต้องทำงานในอุตสาหกรรมบริการแน่นอน เพราะถ้าคุณทำบ่อยๆ คุณก็จะเป็นผู้ชนะเอง !

เศรษฐกิจของแคนาดานั้นเริ่มเติบโตขึ้นจาก เดือนมกราคม ปี 1989 เมื่อมีข้อตกลงการค้าเสรีขึ้น ข้อตกลงทำให้การค้านั้นปลอดภาษีระหว่างสหรัฐฯ กับแคนาดา ซึ่งผลดังกล่าว ทุกวันนี้แคนาดาเป็นผู้ส่งออกสินค้าไปยังสหรัฐฯมากกว่า 80%

นโยบายการเงินและการคลัง

Bank of Canada (BOC) ธนาคารกลางแคนาดาเป็นตัวนำหลักในการตัดสินใจเกี่ยวกับนโยบาย การตัดสินใจเรื่องนโยบายทางการเงินนั้นมาจาก Governing Council ซึ่งแต่งตั้งมาจากประธานธนาคารกลาง และสมาชิกอาวุโส และกรรมการบริหาร

ซึ่งที่นี่ไม่เหมือนกับธนาคารกลางที่อื่น เพราะว่า BOC นั้นไม่ได้กำหนดเวลาการเปลี่ยนแปลงนโยบายแน่ชัด ซึ่งสภาจะมาเจอกันทุกวัน ทำให้พวกเขาเปลี่ยนแปลงนโยบายการเงินเมื่อไหร่ก็ได้

ภาระกิจของธนาคารนั้นก็คล้ายๆ กับธนาคารกลางอื่นๆ เพื่อแน่ใจว่ามูลค่าของค่าเงินแคนาดานั้นคงที่ และเงินเฟ้อนั้นอยู่ภายใน 1-3 % ธนาคารกลางแคนาดา ดำเนินการนี้ผ่านนโยบายตลาดแบบเปิด และการปรับอัตราดอกเบี้ยต่าง ๆ

เครื่องมือที่ BOC ใช้ในนโยบายตลาดแบบเปิด เรียกว่า Large Value Transfer System (LVTS) LVTS ทำให้ธนาคารพาณิชย์ทุกๆ ธนาคารในแคนาดาสามารถกู้ยืมเงินซึ่งกันและกันได้ ดังนั้นธุรกรรมนี้จึงเกิดขึ้นทุกวัน และ อัตราดอกเบี้ยก็จะเปลี่ยนตามธุรกรรมนี้ซึ่งเรียกว่าอัตราดอกเบี้ยธนาคาร ซึ่งจากอัตราดอกเบี้ยธนาคาร BOC ก็จะควบคุมกระแสเงินในระบบเศรษฐกิจ

เพื่อให้เห็นภาพ สมมติว่า อัตราดอกเบี้ยจะถูกตั้งไว้ที่ 2% และการประชุมครั้งหนึ่ง BOC เข้าใจกว่า ค่าเงิน CAD นั้นกำลังอ่อนค่าเร็วกว่าที่คิด ซึ่งทำให้เกิดสินค้าราคาสูงขึ้น BOC จะตัดสินใจเพิ่มอัตราดอกเบี้ยเป็น 2.50% ทันที

การเพิ่มอัตราดอกเบี้ย ดอกเบี้ยจะถูกจ่ายให้กับผู้ให้ยืมเมื่อมันเพิ่มขึ้น การลดดอกเบี้ยภาคธุรกิจและบุคคลก็จะต้องจ่าย ถ้าเงินในกระเป๋าผู้บริโภคเริ่มร่อยหรอ โอกาสในการใช้จ่ายก็จะลดลง เพื่อป้องกันการลุกลามของเงินเฟ้อ แล้วธุรกิจอะไรจะมาเพิ่มราคาสินค้าของเขาเมื่อมันไม่มีคนซื้อ จริงไหม?

ทำความรู้จักกับ CAD

คุณอาจจะสงสัยว่าทำไม CAD ถึงเรียกตามนกประจำชาติของแคนาดา ลูนี่ เพราะว่าเป็นสัญลักษณ์ในเหรียญแคนาดา ลองไปเช็คคำว่า Loonie ได้

น้ำมันกับเงินดอลล่าร์แคนาดา

ตามประวัติของมัน ราคาของน้ำมันนั้นมีความเกี่ยวพันกับ USD/CAD กฏก็คือ เมื่อราคาน้ำมันเริมสูงขึ้น ค่าเงิน CAD ก็จะสูงขึ้นตาม ถ้าราคาของน้ำมันนั้นคาดว่าจะขึ้น คุณควรจะ Sell USD/CAD !

ชั่วโมงการทำงานของฉันน้อย...

USD/CAD เป็นที่รู้กันว่าเคลื่อนไหวไม่มากนักต่อวัน เมื่อนักเทรดกำลังทำกำไรระหว่างช่วงเวลาคาบเกี่ยวกันของช่วงเวลาทางยุโรป กับเวลาทางสหรัฐฯ ค่าเงินดอลล่าร์แคนาดาจะเริ่มเคลื่อนไหว

...ไม่เหมือนกับ B.F.F.และ ค่าเงิน USD...

กุญแจสำคัญ ในการเทรด USD/CAD คือ ทิศทางของมันนั้นค่อนข้างผูกติดกับเศรษฐกิจสหรัฐฯ จำไว้ว่า มากกว่าการเป็นเพื่อนบ้านแล้ว สหรัฐและแคนาดายังเป็นประเทศคู่ค้าที่สำคัญกันด้วย เมื่อเศรษฐกิจสหรัฐฯ เติบโตอย่างต่อเนื่อง เศรษฐกิจแคนาดาก็จะเคลื่อนไหวตามมาติด ๆ เมื่อคุณตัดสินใจเทรด CAD ควรจะมาดูว่าเกิดอะไรขึ้นกับค่าเงิน USD บ้าง

...ฉันค่อนข้างมีชีวิตชีวาช่วงตลาดสหรัฐฯ

ค่าเงิน CAD ปกติจะไม่เคลื่อนไหวจนกว่าตลาดสหรัฐฯ จะเปิดราว ๆ 1:00 pm GMT ค่าเงิน CAD เคลื่อนไหวน้อยมากในช่วเวลาตลาดเอเชีย และตอนเช้าของตลาดยุโรป

เครื่องมือเศรษฐกิจที่สำคัญของCAD

Consumer Price Index (CPI) – เช่นเดียวกับธนาคารกลางอื่น ๆ ธนาคารกลางแคนาดาจะต้องรักษาเสถียรภาพของราคา เมื่อดัชนีราคาผู้บริโภคนั้นเพิ่มหรือลด ทำให้ราคาสินค้าเพิ่มหรือลด รายงานนี้จะถูกจับตามองจากนักเทรด

Gross Domestic Product (GDP) - GDP เป็นตัววัดกิจกรรมทางเศรษฐกิจของแคนาดา ซึ่งเปิดเผยว่าเศรษฐกิจประเทศนั้นเติบโตหรือไม่

Trade Balance – เหมือนกับสินค้าโภคภัณฑ์ของประเทศ เศรษฐกิจของแคนาดานั้นเกี่ยวพันโดยตรงกับการส่งออกและนำเข้า

Ivey Purchasing Mangers' Index (PMI) – ดัชนี PMI เป็นการสำรวจว่าภาคธุรกิจนั้นเห็นยังไงกับสภาพเศรษฐกิจปัจจุบัน ซึ่งถ้าค่าสูงกว่า 50 หมายความว่าสภาพเศรษฐกิจดี และต่ำกว่า 50 หมายความว่าเศรษฐกิจไม่ค่อยดี

อะไรทำให้ CAD เคลื่อนไหว ?

ข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ

ข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ นั้นออกมาพร้อมๆกับ ของแคนาดา ซึ่งอีกแง่หนึ่ง ข้อมูลอีกด้านหนึ่งจาก ข้อมูลด้านลบของสหรัฐฯ และ ข้อมูลด้านบวกของแคนาดา จะทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ทำให้เกิดขาลงในมูลค่า USD/CAD อีกด้านหนึ่ง ถ้าเกิดข่าวบวกทางสหรัฐฯ และทางด้าน แคนาดา ไม่ดีมากนัก ทำให้ USD/CAD พุ่งแรงขึ้น !

การรวม และ สิ่งที่ได้มา

เพราะว่า ความใกล้ชิดระหว่าง สหรัฐ และแคนาดา การรวมตัวกันของทั้งสองฝั่งย่อมเกิดขึ้นบ่อย ซึ่งทำให้เงินปริมาณมหาศาลไหลไปมาระหว่างกัน ซึ่งสร้างผลกระทบอย่างมหาศาลในตลาด forex

ตัวอย่าง ในการที่บริษัทในสหรัฐฯจะเข้าซื้อบริษัทในแคนาดา อย่างแรกที่ต้องทำคือแลกเงินเป็นเงินดอลล่าร์แคนาดา เพื่อสามารถทำธุรกรรมดาได้ ลองคิดดูว่าต้องใช้เงินเท่าไหร่ ที่ไหลเข้าออกตลาดแลกเปลี่ยนค่าเงิน l!

การเทรดค่าเงิน USD/CAD

USD/CAD จะถูกเทรดเป็นเงิน USD Standard lot เท่ากับ 100,000 USD และ mini lot เท่ากับ 10,000 USD

มูลค่าต่อจุด ซึ่งคิดเป็นดอลล่าร์แคนาดา จะถูกคำนวณเป็นจุด จากมูลค่า ของค่าเงิน USDCAD (นั่นคือ 0.0001) โดย ขึ้นอยู่กับราคาของ USDCAD

กำไรและขาดทุนจะเป็นเงินดอลล่าร์ สำหรับ standard lot การเคลื่อนไหวแต่ละจุดมีมูลค่า 10 CAD สำหรับ mini lot มีมูลค่าเท่ากับ 1 CAD ตัวอย่างเช่นถ้าอัตราแลกเปลี่ยนของ USD/CAD เท่ากับ 1.1000 และคุณต้องเทรดที่ 1 standard lot ดังนั้น 1 จุดจะเท่ากับ 6.72 USD

การคำนวณมาร์จิ้น จะถูกคิดเป็นเงินดอลล่าร์ ถ้า Leverage 100:1 จะต้องใช้เงิน 1,000 USD ในการเทรดมูลค่า 100,000 USD/CAD

เทคนิคการเทรด USD/CAD

เมื่อ USD/CADเป็นค่าเงินเดียวที่ค่อนข้างมีการเคลื่อนไหวในช่วงตลาดสหรัฐ ค่าเงินจึงมีสัญญาณหลอกมากในช่วงตลาดยุโรปกับตลาดเอเชีย นี่หมายความว่าการทะลุแนวต้าน แนวรับใน USD/CAD ในช่วงตลาดเวลาอื่น นอกจากเวลาสหรัฐฯ จะทำให้เกิดสัญญาณหลอกได้มาก

การเฝ้ามองความแตกต่างของข้อมูลเศรษฐกิจระหว่างประเทศสองประเทศนั้นเป็นการฝึกการตัดสินใจเกี่ยวกับทิศทางของ USD/CAD ที่ยอดเยี่ยม เพราะว่า ทั้ง สหรัฐฯ และ แคนาดา นั้นถูกปล่อยออกมาแทบจะพร้อมกัน ซึ่งทำให้มันเกิดการเคลื่อนไหวในตลาดขึ้น

ข้อมูลที่เป็นลบ บวกกับข้อมูลที่เป็นบวกฝั่งแคนาดาจะทำให้เกิดการอ่อนค่าของคู่เงิน USDCAD

สุดท้าย การเผ้ามองข้อมูลเศรษฐกิจ การใช้เวลาในการวิเคราะห์ราคาและพฤติกรรมจะช่วยในการเทรด CAD

ตั้งแต่ที่แคนาดา นั้นเป็นประเทศที่ผลิตน้ำมันรายใหญ่และทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงของราคาที่กระทบกับค่าเงินดอลล่าร์แคนาดา ซึ่งจริงๆ แล้วตั้งแต่ปี 1988 ค่าเงินของ USD/CAD และราคาน้ำมันนั้นค่อนข้ามเกี่ยวพันกันในทิศทางตรงกันข้ามมากกว่า 68%

แล้วคุณจะใช้ความได้เปรียบนี้อย่างไร? ถ้าคุณสังเกตุเห็น ว่าราคาน้ำมันที่ปั๊มใกล้บ้านคุณ ราคาขึ้น สามารถบอกคุณได้ว่าคุณควรจะ sell USD/CAD

เนื้อหาต่อไป : ออสเตรเลีย

prevcontentnext

เนื้อหาก่อนหน้า : ญี่ปุ่น