ใส่มันเข้าด้วยกัน / สรุปเรื่องเครื่องมือต่างๆ

ใส่มันเข้าด้วยกัน

ในทางทฤษฏีเราควรจะเลือกใช้เครื่องมือใดเครื่องมือหนึ่ง แต่ว่าปัญหาคือ เราไม่ได้อยู่ในโลกของทฤษฎี และเครื่องมือเหล่านั้นไม่ได้สมบูรณ์แบบแม้แต่ตัวเดียว ซึ่งนี่เป็นเหตุผลให้เทรดเดอร์หลายๆ คน รวมเครื่องหลายๆ ชนิดเข้าด้วยกัน ทำให้เครื่องมือกรองจุดบอดของสัญญาณ หรือข้อเสียของเครื่องมืออีกตัวหนึ่งที่มีอยู่ออกไป เราอาจจะใช้เครื่องมือซักสามอย่าง และเราจะไม่เทรดจนกว่า เครื่องมือทั้งสามประเภทให้สัญญาณตรงกันหมด

หลังจากที่คุณเดินทางมาในฐานะเทรดเดอร์จนวันนี้ คุณคงได้พบเครื่องที่ดีที่สุดสำหรับคุณแล้ว แต่เราขอแนะนำคุณให้ใช้ MACD Stochastic และ RSI แม้ว่าคุณอาจจะชอบอย่างอื่นมากกว่า เทรดเดอร์ทุกคนมักจะพยายามหาของอินดิเคเตอร์ที่คิดว่าดีที่สุด และให้สัญญาณที่ถูกต้องสำหรับเขาซักตัวหนึ่ง แต่ว่าความจริงแล้ว มันไม่มีเครื่องมีอย่างนั้นหรอก

เราอยากให้คุณศึกษาเครื่องมือ หรือ Indicator แต่ละชนิดด้วยตัวของคุณเองจนกว่าคุณจะรู้ว่า มันตอบสนองกับปฏิกิริยาของตลาด และค้นหาส่วนผสมของ เครื่องมือเหล่านั้นที่เหมาะกับรูปแบบการเทรดของคุณ ในส่วนท้ายของบทเรียนนี้ เราได้แสดงให้เห็นว่าการรวมเอาเครื่องมือต่างๆ เข้าด้วยกัน ว่ามันจะเป็นของขวัญที่เหมาะกับคุณมากเพียงใด

สรุปเรื่องเครื่องมือต่างๆ

ทุกๆ อย่างที่คุณเรียนรู้เกี่ยวกับการเทรดเป็นเครื่องมือที่ใช้ใส่ในกล่องเครื่องมือของคุณ เครื่องมือของคุญจะทำให้คุณสร้างตัวเลขในบัญชีเทรดของคุณได้ง่ายขึ้น

Bollinger Bands

- ใช้ในการวัดความผันผวนของตลาด

- ทำหน้าที่เหมือนแนวรับแนวต้าน

- การเด้งของราคาใน Bollinger Band

o กลยทธ์ที่ใช้จะขึ้นอยู่กับว่า ราคาจะวิ่งเข้าหาจุดกึ่งกลางของ Bollinger Band เสมอๆ

o คุณจะส่ง order buy เมื่อราคาชนเส้น Bollinger Band ที่อยู่ด้านล่าง

o คุณจะส่ง order Sell เมื่อราคาชนเส้น Bollinger Band ที่อยู่ด้านบน

o Best used in ranging markets

- การบีบตัวของ Bollinger band

o กลยุทธ์ที่จะใช้คือใช้ในการหาจุดทะลุแนวรับและแนวต้าน หรือการเกิด Break out

o เมื่อ Bollinger Band บีบตัว ราคาจะบอกเราว่าตลาดนั้นเงียบ และเมื่อเกิดการเบรคเอาท์ขึ้นมา เราจะเข้าเทรดในด้านที่ราคาได้ทะลุเส้น Bollinger band ขึ้นไป หรือลงไป

MACD

- ใช้ในการจับเทรนด์ และสามารถช่วยเรากำหนดจุดกลับเทรนด์ได้

- มันประกอบด้วย เส้น Moving Average 2 เส้น (1 fast, 1 slow) และเส้นแนวตั้ง ที่เราเรียกว่า เส้น histogram ซึ่งใช้วัดความต่างของเส้น Moving Average สองเส้นดังกล่าว

- ตรงกันข้ามกับสิ่งที่หลายๆ คนคิด เส้น Moving Averageที่อยู่ใน MACD ไม่ใช่เส้นราคาเฉลี่ยของราคาตลาด แต่เป็นเส้นค่าเฉลี่ยของเส้นค่าเฉลี่ยอีกทีหนึ่ง

- MACD นั้นเคลื่อนไหวตอบสนองช้าเพราะว่ามันใช้ค่าเฉลี่ยของเส้นราคาเฉลี่ยอีกทีหนึ่ง

- วิธีหนึ่งในการใช้ MACD คือการรอให้เส้น Fast ข้ามเส้น Slow เพราะว่ามันเป็นสัญญาณว่าเกิดเทรนด์ใหม่

Parabolic SAR

- เครื่องมือนี้จะสร้างจุด และใช้บอกจุดกลับเทรนด์ ดังนั้น ชื่อของมันคือ Parabolic Stop And Reversal (SAR)

- นี่เป็นเครื่องมือที่ใช้ง่ายที่สุดในการอ่านสัญญาณ เพราะว่า มันให้สัญญาณในภาวะตลาดหมีและภาวะตลาดภาวะกระทิงได้ดี

- เมื่อเครื่องมือได้สร้างจุดเหนือ กราฟแท่งเทียนนั่นหมายความว่าเกิดสัญญาณ Sell

- เมื่อเครื่องได้สร้างจุดข้างล่าง กราฟแท่งเทียนนั่นหมายความว่าเป็นสัญญาณ Buy เกิดขึ้น

- เครื่องมือนี้ใช้ได้ดีในตลาดที่มีเทรนด์และซึ่งจะบอกถึงความยาวของเทรนด์ และจุดกลับตัว

Stochastics

- ใช้ในการบอกสัญญาณเมื่อตลาดมีภาวะ overbought และ oversold

- เมื่อเส้น moving averageอยู่เหนือ 80 หมายความว่าตลาดนั้นมีมีการซื้อเยอะเกินไปและเราควรหาจังหวะส่ง order Sell

- เมื่อเส้น Moving average อยู่ต่ำกว่า 20 หมายความว่าตลาดนั้นมีการขายเยอะเกินไปเราควรจะหาจังหวะส่ง order Buy

Relative Strength Index (RSI)

- เช่นเดียวกับกับ stochastic ที่จะบอกว่า overbought และ oversold

- เมื่อเส้น RSI อยู่เหนือเส้น 70 หมายถึงตลาดนั้นมีการซื้อมากเกินไปและเราควรส่งคำสั่ง Sell

- เมื่อ RSI อยู่ใต้เส้น 30 มันหมายถึงตลาดนั้นมีการขายมากเกินไป และเราควรหาจังหวะซื้อ

- RSI เราสามารถใช้ในการยืนยันการเกิดเทรนด์ ถ้าคุณคิดว่าเทรนด์กำลังจะเกิดขึ้น คุณควรจะรอให้ RSI ให้อยู่เหนือ 50 (ซึ่งขึ้นอยู่กับว่าคุณจะมองดู เทรนด์ขาขึ้น และขาลง) ก่อนที่คุณจะเข้าเทรด

เครื่องมือแต่ละชนิดนั้นมีความไม่สมบูรณ์แบบในตัวมันเอง นี่เป็นเหตุผลว่า ทำไมเทรดเดอร์ (trader) หลายคนใช้เครื่องมือหลาย ๆ ตัวในการกรองสัญญาณหลอกให้กับตัวอื่น หลังจากที่คุณก้าวหน้าในอาชีพการเทรดของคุณในบทเรียนที่ผ่านๆ มาแล้ว ซึ่งคุณจะเรียนรู้เครื่องมือที่คุณชอบที่สุด และคุณควรจะเรียนรู้ในการใช้มันให้เข้ากันและเหมาะกับรูปแบบการเทรดของคุณ

เรารู้ว่า บทนี้เป็นบทเรียนที่ยาววววววววววววววววววววววว นานสำหรับคุณขนาดไหน เราอยากจะกระตุ้นให้คุณให้กลับไปทบทวนบทเรียนเก่าๆ บ้างที่คุณยังไม่ค่อยเข้าใจ เพียงแค่คุณหยิบมันมาอ่านบางครั้ง ก่อนที่จะลงมือศึกษา หรือว่าส่ง order ก็ได้

เมื่อคุณเข้าใจหลักการของ อินดิเคเตอร์ต่างๆ เป็นอย่างดีแล้ว ให้คุณกลับไปที่โปรแกรมเทรดของคุณแล้ว เรียนรู้ที่จะใช้เครื่องมือให้คล่องแคล่ว และมุ่งไปว่าเครื่องมือแต่ละตัวมีปฏิกิริยากับพฤติกรรมการเคลื่อนไหวของราคาอย่างไร

เมื่อคุณเข้าใจ อินดิเคเตอร์ ตัวในตัวหนึ่งเป็นอย่างดีแล้ว มันก็จะกลายมาเป็นเครื่องมือของคุณในกล่องเครื่องมือของคุณ ตอนนี้เราคิดว่าคุณควรจะพักได้แล้ว แล้วก็หากาแฟซักแก้ว หาอะไรกิน เรารู้ว่าหนังตาคุณเริ่มตกแล้ว จบไว้ตรงนี้ก่อน แล้วค่อยกลับมาเมื่อสมองของคุณปลอดโปร่งและพร้อมที่จะเรียนรู้ !

เนื้อหาต่อไป : อินดิเคเตอร์ทีให้สัญญาณเร็วกับให้สัญญาณช้า

prevcontentnext

เนื้อหาก่อนหน้า : Relative Strength Index (RSI)