ต้องรู้จักความเสี่ยงของคุณอยู่เสมอ

เมื่อคุณเทรดด้วยคู่เงินหลายคู่ ในบัญชีเทรดของคุณ ต้องรู้เสมอว่า คุณมีความเสี่ยงขนาดไหน และเสี่ยงตรงไหน?
คุณอาจจะคิดว่า คุณกำลังกระจายความเสี่ยงโดยการเทรดหลาย ๆ คู่ แต่ว่าถ้าเกิดมันเคลื่อนไหวในทิศทางเดียวกัน
มาดูตัวอย่างของค่าเงินที่เกี่ยวกันในกราฟ รายสัปดาห์ : EUR/USD และ GBP/USD
EUR/USD | USD/JPY | USD/CHF | GBP/USD | USD/CAD | AUD/USD | NZD/USD | EUR/JPY | EUR/GBP |
---|---|---|---|---|---|---|---|---|
1 week | -0.23 | -1.00 | 0.94 | -0.98 | 0.98 | 0.93 | 0.93 | 0.86 |
1 month | 0.63 | -0.98 | 0.13 | -0.90 | 0.90 | 0.96 | 0.91 | 0.86 |
3 month | -0.62 | -0.92 | 0.83 | 0.14 | 0.63 | 0.42 | 0.61 | 0.75 |
6 month | -0.62 | -0.85 | 0.31 | -0.35 | 0.61 | 0.65 | 0.28 | 0.71 |
1 year | -0.69 | -0.98 | 0.88 | -0.93 | 0.95 | 0.96 | 0.66 | 0.02 |
ตามตาราง ด้วยค่าสัมประสิทธิที่ 0.94 ซึ่งบอกเราว่ามีความสัมพันธ์เป็นบวก ซึงต้องมีทิศทางการเคลื่อนไหวในทิศทางเดียวกันอย่างแน่นอน !
โอเค มาดูภาพกัน ประเด็นก็คือว่า ค่าเงินที่เราถือ ตามภาพกันก่อนแล้วไปดูอีกค่าเงิน นี่เป็นกราฟ 4 ชั่วโม บอกว่าค่าเงินทั้งสองจะเคลื่อนไหวในทิศทางเดียวกัน


มาดูเรื่องความเสี่ยงกัน เราจะเห็นว่า การเปิด order ในค่าเงิน EUR/USD และ GBP/USD คือการเคลื่อนไหวในทิศทางเดียวกัน
ตัวอย่าง ถ้าคุณ Buy EUR/USD 1 Lot และ Buy GBP/USD 1 Lot คุณซื้อรวม 2 Lot ซึ่งเหมือนกับ Buy EUR/USD 2 Lot เพราะว่า ค่าเงินทั้งสองคู่เคลื่อนไหวในทิศทางเดียวกัน
อีกแง่หนึ่ง คุณเพิ่มความเสี่ยงของคุณ โดยการ ซื้อ EUR/USD และ GBP/USD คุณก็จะมีโอกาสผิดเป็นสองเท่า คือ ถ้า EUR/USD ร่วงและโดน Stop Loss ค่าเงิน GBP/USD ก็จะไปในทิศทางเดียวกัน และคุณก็จะต้อง Stop Loss
คุณคงไม่อยาก Buy EUR/USD และ Sell GBP/USD พร้อมกัน ถ้า EUR/USD นั้นวิ่ง GBP/USD ก็จะเป็นเช่นเดียวกัน คุณคงคิดว่า เราจะกำไรตรงไหน?
ถ้าคุณคิดว่า กำไรขาดทุนจะเป็นศูนย์ตลอด คุณผิดแล้ว เพราะว่า ค่าเงิน EUR/USD กับ GBP/USD นั้นมันเคลื่อนไหวไม่เท่ากัน เพราะว่า มันเคลื่อนไหวทิศทางเดียวกัน ไม่ได้หมายความว่ามันจะต้องเคลื่อนไหวเท่ากันซักหน่อย
ค่าความผันผวนของค่าเงินนั้น ไม่แน่นอน เช่น EUR/USD สามารถเคลื่อนไหว 200 จุด และ GBP/USD 190 จุด ถ้ามันเกิดขึ้นจากการเทรด เราอาจจะขาดทุนจาก GBP/USD แต่เราก็ได้กำไรจาก EUR/USD
ทีนี้เราลองคิดดูว่า EUR/USD เป็นค่าเงินที่ เคลื่อนไหวที่ 190 จุด และ GBP/USD นั้นเคลื่อนไหว 200 จุด คุณก็ขาดทุนแน่นอน !
การ Buy ค่าเงินหนึ่ง และ Short อีกค่าเงินหนึ่ง ที่มีความสัมพันธ์กันสูงนั้นค่อนข้างได้ประโยชน์น้อย
ยิ่งกว่านั้น คุณต้องจ่าย Spread 2 เท่า คุณได้กำไรน้อยไปด้วยเพราะว่า อีกค่าเงินหนึ่งก็จะกินกำไรอีกค่าเงินหนึ่งไปด้วย ยิ่งเลวร้ายกว่าเดิมเมื่อคุณอาจจะเสียได้ถ้าคุณไม่รู้ว่า ค่าความผันผวนของค่าเงินเปลี่ยนไป
มาดูตัวอย่างอื่นกัน ซึ่งมาดูค่าเงิน EUR/USD และ USD/CHF ขณะที่เราเห็นความสัมพันธ์ที่เป็นบวก GBP/USD นั้นมีความสัมพันธ์เป็นบวกกับ USD/CHF
ถ้าเรามองดูกราฟรายสัปดาห์ มันมีค่าความสัมพันธ์เป็น ลบ มันไม่ได้เคลื่อนไหวตรงข้ามกันมาก
EUR/USD และ USD/CHF เหมือนไฟกับน้า ที่วิ่งตรงข้ามกันอย่างุรนแรง
ซึ่งสองคู่นี้เคลื่อนไหวในทางตรงข้ามกัน มาดูตามกราฟกัน :


การเข้าเทรดตรงกันข้ามกับค่าเงินที่เคลื่อนไหวตรงกันข้ามกันก็เหมือนกับการเทรดทิศทางเดียวกันในค่าเงินที่เคลื่อนไหวทิศทางเดียวกัน
การ Buy EUR/USD และ sell USD/CHF ก็มีผลไม่ต่างกันกับการเพิ่ม order ในการเทรด ตัวอย่าง ถ้าคุณ Buy 1 Lot ค่าเงิน EUR/USD และ Sell 1 Lot ค่าเงิน USD/CHF หมายความว่า Buy Lot 2 ค่าเงิน EUR/USD เพราะว่าถ้า EUR/USD ขึ้น แล้ว USD/CHF ลง และคุณก็จะได้กำไรทั้งสองคู่
คุณยังจำได้ไหม คือ คุณกำลังเพิ่มความเสี่ยงในบัญชีเทรดของคุณถ้าคุณทำแบบนั้น มาดูตัวอย่าง เมื่อกี้ ถ้า EUR/USD นั้นเคลื่อนไหวตรงข้ามกับ order ที่คุณถืออยู่ รวมทั้ง USD/CHF ด้วย หมายความว่า คุณต้องเสียทั้งสองคู่เช่นเดียวกัน
อีกแง่หนึ่ง การ Buy หรือ sell ทั้งสองคู่ พร้อมกัน นั้นอาจจะได้กำไรน้อย ไม่คุ้มกับการเทรด
เพราะว่า ค่าเงินสองคู่เคลื่อนไหวทิศทางต่างกัน เมื่อตัวหนึ่งได้กำไรอีกตัวหนึ่งก็จะขาดทุน ดังนั้นคุณจะจบด้วยกำไรนิดหน่อย
หรือ คุณอาจจะจบด้วยขาดทุนนิดหน่อยซึ่งมาจากความแตกต่างของการเคลื่อนไหวค่าเงินและค่าความผันผวนของค่าเงิน