การว่ายน้ำ swimming

การว่ายน้ำแบบต่างๆ

การว่ายน้ำแบบต่างๆ ผู้เรียนควรจะเรียนมีอยู่ด้วยกันทั้งหมด 6 แบบ คือ

1. ว่ายแบบกบ (Breast stroke)

2. ว่ายกรรเชียงยกแขนพร้อมกัน ( Back stroke)

3. ว่ายวัดวา (Crawl stroke)

4. ว่ายกรรเชียงทีละแขน (Back crawl)

5. ว่ายแบบผีเสื้อ (Butterfly stroke)

6. ว่ายตะแคง (Side stroke)

ประวัติการว่ายน้ำ

การว่ายน้ำ ถือว่าเป็นศิลปอย่างหนึ่ง มนุษย์สามารถว่ายน้ำได้ ตั้งแต่สมัยดึกดำบรรพ์ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง มนุษย์ที่ตั้ง ภูมิลำเนาอยู่ตาม ชายฝั่งทะเล แม่น้ำ ที่ราบลุ่มต่างๆ พวกแอสซีเรีย อียิปต์ กรีก และ โรมัน ได้มีการฝึกหัดว่ายน้ำกัน มาตั้งแต่ก่อนคริสตกาล แต่วิธีว่ายน้ำของชนชาติเหล่านี้ ก็เพียงเพื่อ ให้สามารถ ว่ายน้ำข้ามไปได้เท่านั้น พวกอินเดียน ที่อาศัยอยู่ในทวีปอเมริกาใต้ มีวิธีว่ายน้ำแบบหนึ่ง ที่แปลกไปจาก พวกยุโรป คือ ยกแขนกลับไปเหนือน้ำ หลังจาก ได้พุ้ยน้ำมาแล้ว

Ralph Thomas ได้ใช้ชื่อแบบว่ายน้ำ ที่มนุษย์ใช้ว่ายกันมาตั้งแต่เดิมว่า Human Stroke หรือ ที่นิยมเรียกกัน โดยทั่วไปในปัจจุบันนี้ว่า "Dog Paddle" คือใช้มือทั้งสองพุ้ยน้ำ สลับกันอยู่ใต้คาง คล้าย สุนัขว่ายน้ำ

พวกสลาฟ และพวกสแกนดิเนเวีย รู้จักว่ายน้ำอีกแบบหนึ่ง โดยใช้เท้าเคลื่อนไหวใต้น้ำ คล้ายกบว่ายน้ำ "Frog Kick" แต่วิธีการเคลื่อนไหว ของขาแบบนี้ ผู้ว่ายน้ำจะว่ายไปไม่ค่อยเร็วนัก

การแข่งขันว่ายน้ำครั้งแรก เชื่อกันว่า ได้จัดการแข่งขันขึ้นที่ Woolwich Baths ใกล้กับ กรุงลอนดอน ใน ประเทศอังกฤษ ซึ่งจัดการแข่งขันขึ้นเมื่อปี 1873 การจัดการแข่งขันครั้งนี้ จัดการแข่งขันเพียงแบบเดียว คือ Free Style โดยที่ผู้ว่ายน้ำแต่ละคน จะว่ายในแบบใดๆก็ได้ ขอให้เร็วที่สุด ก็แล้วกัน ในการแข่งขันครั้งนี้ J. Trudgen ได้รับชัยชนะอย่างงดงาม โดยที่เขา ได้ว่ายแบบเดียวกับพวกอินเดียน ในเอเมริกาใต้ว่าย เนื่องจากเขาได้สังเกต เห็นพวกอินเดียนว่ายน้ำ โดยใช้ท่าแบบนั้นมีความเร็วดี เขาจึงเลียนแบบ มาจาก พวกอินเดียนเหล่านั้น นับได้ว่า J. Trudgen ได้เป็นผู้นำ และเผยแพร่ วิธีการว่ายน้ำ ในแบบที่ ยกแขนกลับไปเหนือน้ำ เวลาจะกลับไปจ้วงเพื่อพุ้ยน้ำอีก หลังจากที่เขาได้ชนะแล้ว ชาวยุโรปส่วนมาก จึงสนใจ และหัดว่ายในแบบของเขา ซึ่งให้ชื่อว่า Indian stroke, Trudgen stroke หรือ Trudgen crawl

ประชาชนพลโลกมาสนใจ และกระตือรือร้น เกี่ยวกับการว่ายน้ำขึ้นเมื่อ เรือเอก Matthew Webb ว่ายน้ำ ข้ามช่องแคบอังกฤษ จากเมือง Dover ถึง Calais เมื่อวันที่ 24 - 25 สิงหาคม ค.ศ. 1857 โดยใช้เวลาทั้งสิ้น 21 ชั่วโมง 45 นาที ข่าวความสำเร็จอันนี้ ได้ยังความพิศวง และตื่นเต้นไปทั่วโลก เรือเอกเวป ได้ว่ายน้ำ ข้ามช่องแคบอังกฤษ ด้วยการว่ายแบบกบ Brcast stroke ต่อมา เด็กสาวชาวอเมริกัน ชือ Gertrudederle ได้ว่ายน้ำ ข้ามช่องแคบ อังกฤษอีก เมื่อวันที่ 6 สิงหาคม ค.ศ. 1926 โดยทำเวลาได้ 14 ชั่วโมง 31 นาที เธอว่ายน้ำด้วยแบบ Crawl stroke ตลอดระยะทาง เราจะเห็นได้ว่า ชั่วระยะเวลาราว 50 ปี ความวิวัฒนาการของการว่ายน้ำ เพื่อให้เกิดความเร็ว ได้ก้าวหน้าขึ้นเป็นอันมาก ถ้าเราได้พิจารณาจากเวลา ของคนทั้งสอง ที่ทำได้ หลังจากนั้นเป็นต้นมา แบบ และ วิธีการว่ายน้ำ ได้รับการปรับปรุง และเปลี่ยนแปลง เพื่อให้เกิดความเร็วขึ้นเสมอๆ ในบรรดานักว่ายน้ำทั่วไป โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ชาว Lan Cashire และ Australia ได้ดัดแปลงวิธีว่ายน้ำ จากแบบ Trudgen stroke เพื่อให้เกิดความเร็วยิ่งขึ้น ในบางส่วน เช่น ใช้ขากระทุ่มน้ำแบบกรรไกร โดยกางขาให้มากขึ้น ไม่งอเข่าเข้ามา เช่นแต่ก่อน ซึ่งก็ได้รับผลดี คือ Harry Taylor ผู้ครองสถิติโลก เมื่อปี 1906 - 1908 Bare Kiearany ชาวออสเตรเลีย และ T.S. Battersby ชาวอังกฤษ

ต่อมา การว่ายน้ำแบบ Crawl stroke ก็ได้เริ่มขึ้นโดย Alex Wicham ชาวเกาะโซโลมอน ซึ่งได้อาศัย อยู่ที่เมืองซิดนี่ ประเทศออสเตรเลีย และได้เป็นผู้ครองสถิติโลก ในการว่าย Free style อยู่เป็นเวลานาน ในระยะทาง 50 หลา ท่านผู้นี้ ได้ว่ายน้ำแบบที่เราเรียกว่า Crawl stroke จึงเป็นที่นิยมฝึกหัดกันโดยทั่วไป Dick Cavill ชาวออสเตรเลีย อีกผู้หนึ่ง ได้ปรับปรุงวิธีว่ายน้ำแบบ Crawl stroke ของ Wickham ได้รับผลสำเร็จ และได้ครองสถิติโลก ในระยะทาง 100 หลา โดยทำเวลาได้ 58 วินาที หลังจากนั้นมา การว่ายน้ำแบบ Crawl stroke ก็ได้รับความนิยมทั่วโลก