Chart Stop

อีกวิธีที่ดีวิธีหนึ่ง คือการตั้ง Stop Loss ตาม สิ่งที่กราฟบอก

เมื่อเราเทรดเราควรจะต้อง Stop loss ตามที่ตลาดบอกเรา พอเข้าใจไหม?

สิ่งหนึ่งที่เรารู้คือพฤติกรรม่ราคา ซึ่งจะมีจุดที่ราคานั้นจะเคลื่อนไหวอยู่จุดใดจุดหนึ่งแน่นอน

และบ่อยครั้ง ที่มันจะเคลื่อนไหวอยู่แถวแนวรับแนวต้าน หรือ มีการทดสอบแนวรับแนวต้าน บางครั้งก็อาจจะทะลุไปเฉย ๆ

การตั้ง Stop loss ให้ห่างจากแนวพวกนี้หน่อย จะเป็นการดี เพราะว่า ถ้าตลาดนั้นมีการเทรดอยู่ในพื้นที่นี้ และเวลาที่มันเกิดจุด Break out จุดนั้นเทรดเดอร์ก็จะต้องปิด order เพราะมีคนเข้ามาเทรดเพิ่มขึ้น ทำให้ราคาเคลื่อนไหวตรงข้ามกับ order ของคุณ

หรือ ถ้ามันเกิดจุด Break out มันอาจจะเกิดขึ้นทันทีทันใด ในทิศทางใดทิศทางหนึ่ง

เรามาดูตัวอย่างการตั้ง Stop Loss ตามแนวรับแนวต้านกัน :

ตามกราฟข้างบน เราจะเห็นว่าค่าเงินนั้นเทรดอยู่ข้างบนเส้นเทรนด์ไลน์

คุณเลยตัดสินใจว่า คุณจะส่ง order Buy

แต่ก่อนที่คุณจะเทรด ต้องถามตัวเองตามคำถามต่อไปนี้ก่อน :

คุณจะตั้ง Stop Loss ที่ไหน? ?

แล้วเงื่อนไขไหนที่คุณออกจากการเทรด?

ในกรณีนี้ เราควรจะต้อง Stop Loss ให้ต่ากว่าเส้นเทรดไลน์ และ เส้นแนวรับ

ถ้าตลาดเคลื่อนไหวอยู่ในบริเวณนี้ หมายความว่า Trend line นั้นไม่มีคนซื้อมารองรับ และฝั่ง ผู้ขายกำลังครอบงาตลาด

และคุณควรจะออกจากการเทรด และยอมรับการขาดทุน

Volatility Stop

เพื่อให้มันฟังดูเข้าใจง่าย Volatility หรือความผันผวน นั้นคือความเคลื่อนไหวของตลาดที่อาจจะเคลื่อนไหวในช่วงเวลาใดเวลาหนึ่งได้

การรู้ว่า ค่าเงินจะเคลื่อนไหวประมาณท่าไหร่จะช่วยคุณต้อง Stop Loss ได้อย่างถูกต้องและหลีเลี่ยงการถูก Stop loss ก่อนเวลาควรจะเป็น

ถ้าคุณเล่นแบบ Swing Trade และคุณรู้ว่า EUR/USD นั้นเคลื่อนไหวอยู่ราว ๆ 100 จุดต่อวัน ภายในเดือนที่ผ่านมา คุณต้อง Stop loss ที่ 20 จุด อาจจะชน Stop Loss อย่างรวดเร็ว เพียงเพราะมันแกว่งตัวเพียงนิดหน่อย

การรู้ค่าความผันผวนเฉลี่ยจะช่วยคุณตั้งจุด Stop Loss ในใจของคุณไว้แล้ว ทำให้ order เทรดของคุณมีช่องหายใจอยู่บ้าง

ตามที่เราได้อธิบายในบทเรียนก่อน วิธีหนึ่งที่จะวัดความผันผวนได้คือ การใช้ Bollinger Band เพื่อให้คุณรู้ว่าตลาดนั้นผันผวนขนาดไหน

ซึ่งเหมาะกับการเทรดที่อาศัยการแกว่งตัวของราคา โดยการตั้ง Stop Loss นอกเส้น ถ้าราคาถึงจุดนั้น หมายความว่าความผันผวนเริ่มสูงและเราสามารถเล่นแบบเทรด Break out ได้

อีกวิธีในการหาค่าความผันผวนเฉลี่ยคือการใช้ Average True Range (ATR) indicator ซึ่งเป็นเครื่องมือที่มีอยู่ในโปรแกรมเรียบร้อยแล้ว และยังใช้ง่าย

ATR นั้นคุณต้องใส่จานวนของแท่งเทียนเข้าไป หรือเวลาทั้งหมดที่คุณต้องการใช้คำนวณค่าเฉลี่ย

ตัวอย่างถ้าคุณ กำลังใช้กราฟ Day และคุณใส่ค่า 20 ลงไป ดังนั้นเครื่องมือ ATR จะคำนวณ 20 วันย้อนหลังให้

หรือถ้าคุณใช้กราฟ ชั่วโมงอยู่ คุณใส่ค่า 50 ลงไป นั่นก็คือ การคำนวณค่าเฉลี่ยย้อนหลัง 50 ชั่วโมง ไม่ยากเลย เห็นมั๊ย?

ซึ่งคุณสามารถใช้วิธีการเหล่านี้ในการประยุกต์ใช้กับ Stop loss ได้ด้วย

ประเด็นก็คือ คุณต้องมีพื้นที่เหลือให้ราคาเคลื่อนไหวก่อนที่มันจะไปตามเทรนด์ ถ้ามันเป็นอย่างนั้นนะ

Time Stop

Time stops ก็คือ คุณตัดสินใจไว้ก่อนว่า คุณจะออกจากการเทรดเวลาไหน ซึ่งสามารถตั้งเวลาได้ เป็นวัน เป็น สัปดาห์ เป็นชั่วโมง

สมมติว่าคุณ เทรดแบบ นักเทรดรายวัน และคุณพึ่งส่ง order Long ค่าเงิน EUR/CHF และมันยังไม่เคลื่อนไหวไปไหน!

ทำไมเราต้องมาจมอยู่อย่างนี้ เมื่อเราสามารถใช้ความได้เปรียบในการตั้งเวลากับมันได้ ...

เคลื่อนไหวมาก ก็ยิ่งได้กำไรมาก ใช่เลย !

เพราะว่า กฏการเทรดที่ว่าคุณไม่อยากถือ order ข้ามคืน คุณเลยอยากจะปิด order เวลา 4 โมงเย็น เมื่อมันหมดวัน คุณก็จะได้เล่น StarCraft 2 Tournament

หรือคุณอาจจะเป็น swing trader และอยากจะปิด order ตอนวันศุกร์ เพื่อหลีกเลี่ยงความเสี่ยงช่วงปลายสัปดาห์ ที่ราคาอาจจะเปิดกระโดด

การมีมาร์จิ้นน้อย ทำให้คุณมีโอกาสเสี่ยง และมีโอกาสรอดน้อยที่จะอยู่ถึงโอกาสทำกำไรครั้งต่อไปมาถึง

ดังนั้นการใช้ Stop loss แบบตั้งเวลา ทำให้เรามีโอกาสในการทำกำไรครั้งต่อไป !

เนื้อหาต่อไป : ข้อผิดพลาดในการใช้ที่เกิดขึ้นบ่อย ๆ next

หน้าสารบัญ

prev เนื้อหาก่อนหน้า : Stop Loss คืออะไร ?